ชนบทในอเมริกาหดตัวลง ขณะที่คนหนุ่มสาวย้ายไปอยู่เมืองใหญ่

ชนบทในอเมริกาหดตัวลง ขณะที่คนหนุ่มสาวย้ายไปอยู่เมืองใหญ่

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob.cooparat@gmail.com

Keywords: ประชากรศาสตร์, demography, ประชากร, population, สหรัฐอเมริกา, United States, USA, ชนบท, rural, เมือง, urban, cities, ชานเมือง, suburb, กระทรวงเกษตรของสหรัฐ, USDA,

ศึกษาและเรียบเรียงจาก “Rural US shrinks as young flee for the cities.” Norma Cohen, FT, Demography Correspondent, June 4, 2013 7:14 pm

ภาพ ชนบทในสหรัฐอเมริกา มีพื้นที่มากมาย แต่มีประชากรอยู่น้อย

ประชากรในเขตชนบทของสหรัฐอเมริกากำลังหดตัวลงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และเป็นครั้งแรกที่คนหนุ่มสาวเคลื่อนย้ายไปเมืองที่ใหญ่กว่า และอัตราการเกิดของประชากรลดลง นี่เป็นรายงานจากข้อมูลอย่างเป็นทางการของสำนักสำรวจประชากร (US Census Bureau)

ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรพบว่า แม้ประชากรในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีทั้งที่เพิ่มขึ้นและลดลง เป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจของประเทศ แต่อัตราการถดถอยในช่วงปี ค.ศ. 2010-2012 นับเป็นครั้งแรกที่อัตราคนเกิดน้อยกว่าอัตราคนเสียชีวิต (Births minus deaths) ยิ่งทำให้ไม่เพียงพอที่จะมีประชากรทดแทนคนที่ย้ายไปอยู่เมืองใหญ่

อัตราการลดของประชากรที่เป็นไปตามการเพิ่มโดยธรรมชาติที่ 135,000 คน หักด้วยคนที่ลดน้อยลงกว่าที่เคลื่อนย้ายไปอยู่เมืองใหญ่ 179,000 คน คิดเป็นจำนวนอัตราประชากรลดลงร้อยละ 0.9

ยิ่งกว่านี้ ในบางพื้นที่ที่ได้เคยมีประชากรเพิ่มขึ้นในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ก็พบว่ามีประชากรเมือง (Cities) ลดลงเป็นครั้งแรกในช่วงปี ค.ศ. 2010-2012 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงปี ค.ศ. 2004-06 ซึ่งมีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างคร่าวๆ 500,000 คน

ในบางเขตชนบทกำลังมีประชากรเพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงเขตที่เป็นแหล่งพลังงานใหม่ ดังที่ได้มีการค้นพบในบริเวณรัฐดาโกต้าเหนือ (North Dakota) ซึ่งในปัจจุบันเป็นเขตที่อยู่ท่ามกลางการตื่นน้ำมัน (New oil boom)

ความเปลี่ยนแปลงด้านประชากรพบมากที่สุดในในเขตรัฐทางตะวันออกกลาง ซึ่งในอเมริกาจัดเป็นเขตอู่ข้าว (Bread basket) และเช่นเดียวกับในเขตอุตสาหกรรมเดิมทางตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งความเปลี่ยนแปลงนี้ จะมีผลกระทบต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจและการเมืองในภูมิภาคแถบนี้

แนวโน้มนี้ จะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พรรคเดโมแครตนำในการเลือกตั้งประธานาธิบดี เพราะประธานาธิบดีหวังดึงคะแนนจากคนที่อยู่ในเมือง เพราะมีประชากรมาก อยู่กันอย่างหนาแน่น และง่ายที่จะมีระบบจัดตั้ง และชักจูงให้ไปออกเสียง

การหดตัวของประชากรในภาคชนบทของอเมริกา ในด้านหนึ่งสะท้อนภาพความเปลี่ยนแปลงในการเลือกตั้ง ซึ่งคนผิวขาวผู้ออกคะแนนเสียง (White voters) กำลังลดลง แต่ประชากรที่เคยเป็นคนกลุ่มน้อย (Minority) ดังเช่นพวกเชื้อสายเมกซิกันและอเมริกาใต้ (Hispanics) เป็นผลผลักดันให้เกิดการปฏิรูปกฎหมายคนเข้าเมือง

ปัจจุบันยังไม่ชัดเจนนักว่าอัตราการลดลงของประชากรจะเป็นอย่างถาวร เจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตร (USDA) ของสหรัฐให้ความเห็นเกี่ยวกับภาคชนบทของอเมริกัน กล่าวคือ คนกลุ่มนี้มีเพียงร้อยละ 15 ของประเทศ แต่อยู่ครอบคลุมพื้นที่ร้อยละ 72 ของประเทศ ซึ่งกำลังประสบปัญหาการลดลงของประชากร

John Cromartie นักภูมิศาสตร์ของกระทรวงเกษตร (USDA Resource and Rural Economics Division) กล่าวว่า การโยกย้ายของประชากรรุ่นหนุ่มสาวในเขตชนบท ทำให้ชนบทต้องประสบปัญหา “ประชากรชรา” (Ageing in place)

การสูญเสียประชากรในวัย 20 – 30 ปี อันเป็นวัยกำลังจะมีบุตร หมายความว่าชนบทจะมีอัตราการเกิดของประชากรที่ลดลงตามไปด้วยอย่างชัดเจน ส่วนคนที่ย้ายมาอยู่ในภาคชนบท มีแนวโน้มที่จะเป็นผู้ใหญ่สูงวัย และเลยวัยมีบุตรแล้ว

นาย Cromartie กล่าวว่า แม้การวิเคราะห์จากข้อมูลล่าสุดชี้ว่าภาคชนบทของอเมริกากำลังแก่ตัวอย่างรวดเร็วมากกว่าส่วนอื่นๆของประเทศ ในปี ค.ศ. 2009 พบว่า คนภาคชนบทอายุ 65 ปีและมากกว่า มีอยู่ร้อยละ 15 ในขณะที่รายเฉลี่ยของประเทศมีประชากรในวัยดังกล่าวร้อยละ 12

จากข้อมูลดังกล่าวนี้ ทำให้เราต้องมองย้อนกลับมาที่ประเทศไทย ซึ่งมีแนวโน้มของคนหนุ่มสาวไหลไปอยู่เมืองใหญ่ ประชากรชนบทเองก็เป็นคนชรา รุ่นพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย และคนเหล่านี้เป็นคนที่จะทำนาและเกี่ยวข้องกับระบบผลิตด้านการเกษตรทั้งหลาย

ภาพ การทำการเกษตรในเขตชนบทของอเมริกา มักจะใช้เครื่องจักรกลขนาดใหญ่

ภาพ ผลิตผลการเกษตร ทำให้ต้องมีโรงนาขนาดใหญ่ มีไซโล (Silo) เพื่อเก็บพืชผล นอกเหนือจากมัดฟางข้าว ที่ทิ้งไว้ตามท้องนา หรือเก็บมากองไว้ เพื่อใช้เลี้ยงสัตว์

ภาพ ความพยายามฟื้นฟูชีวิตชุมชนชนบท ส่วนหนึ่งด้วยการเพิ่มระบบการสื่อสาร การวางระบบสายใยแก้วนำแสง เพื่อขยายช่องทางการสื่อสาร นับเป็นอีกหนึ่งยุทธศาสตร์