เมื่อทำดีแล้ว อย่าหมดกำลังใจ
๊ ประกอบ คุปรัตน์
สถาบันเด็ก มูลนิธิเด็ก
๊ Updated: ศุกร์, ตุลาคม 17, 2546
สุภาษิตไทย เศรษฐกิจพอเพียง การต่อสู้และความหวัง
เมื่อท่านทำดีอะไรไว้ให้กับใครแล้ว อย่ากลัวว่าจะเสียเปล่า สักวันหนึ่ง ผลดี และความดีที่ท่านได้กระทำไว้ จะทำให้ท่านได้สิ่งตอบแทนที่บางทีก็คาดไม่ถึง ดังสุภาษิตที่ว่า
"You think you lost your horse? Who knows, it may bring a whole herd back to you someday". แปลเป็นความได้ว่า "ท่านคิดว่าท่านเสียม้าไปหนึ่งตัว ใครจะรู้ ม้าตัวนั้นอาจจะพาม้าทั้งฝูงกลับมาหาท่านก็ได้"
สุภาษิตนี้เป็นการให้กำลังใจแก่คนที่ตั้งใจทำดี มีการกระทำใดๆ ไว้ อย่าไปท้อแท้เร็วเกินไป ขอให้มีความพยายาม มีความมั่นใจในสิ่งที่ท่านทำลงไป ความมุ่งมั่น ความอดทน และยังมีความหวังนั้น สักวันหนึ่ง สิ่งที่ท่านได้ทำดีนั้น ก็จะตอบสนองกลับมาหาท่าน
กาลครั้งหนึ่ง หลายทศวรรษมาแล้ว มีชาวนาคนหนึ่งในที่ลุ่มภาคกลาง เขาทำนาข้าวก็มีแต่หนี้สิน มีหนี้มากจนปีหนึ่ง ไม่มีควายจะไถนา ไม่มีเงินจะไปจ้างคนมาช่วยไถนา มาดำหว่านข้าว ได้แต่ปล่อยที่ดินให้ว่างเปล่่า ย่างเข้าหน้าฝน ฝนตกหนัก น้ำท่วมนองที่นา หญ้าก็พลอยงอกงามท่วมที่ ดูแล้ววังเวงชอบกล แต่ความที่มีน้ำท่วม มีหญ้าขึ้นเต็มไปหมด ก็ทำให้มีปลานานาชนิดเข้ามาอยู่ในนาข้าว ในปลาเหล่านั้นก็มีปลาสลิด ที่อาศัยอยู่พงรกร้างได้ดี เขามองรอดผ่านใต้ถุนบ้านไป สังเกตเห็นว่าน้ำที่ท่วมนั้นไม่ท่วมเปล่า มันมีอะไรใหม่ๆ ให้ได้สังเกต เขาใช้เวลาศึกษาธรรมชาติของปลาชนิดต่างๆ ปลาอะไรชอบและไม่ชอบอะไร ท่ามกลางทุ่งหญ้า นาข้าวที่น้ำท่วมเจิ่งนี้ เขาคิดดูว่าจะทำประโยชน์อะไรจากที่ดินต่อไปได้ คิดแล้วก็ลองตัดหญ้า แหวกหญ้าเป็นช่องๆ เพื่อทำพื้นที่ให้มีช่องอากาศ ปลาได้แหวกว่ายกว้างขึ้น เขานำหญ้าที่ตัดไว้มากองรวมกันแล้วปล่อยหญ้าให้เน่าเพื่อลองทำเป็นอาหารปลา ก็รู้สึกว่าได้รับการตอบสนองดี เขาปิดล้อมคันนา เสริมให้เกิบน้ำได้นานขึ้น ใช้ระหัดวิดน้ำเข้าที่ให้เลี้ยงปลาได้นานขึ้น ปลาเบญจพันธุ์เหล่านั้น รวมทั้งปลาสลิด ก็เติบโตพอที่จะได้ขนาดขายได้
ในหน้าแล้งปีนั้น ปีที่เขาหมดหวังจากการปลูกข้าว เขาสามารถวิดน้ำ เก็บจับปลาได้หลายตัน ได้รายได้ส่วนเหลือมากกว่าปลูกข้าว 2 - 3 เท่า เพราะเขาไม่ต้องลงทุนใดๆ ไม่เหมือนกับการปลูกข้าว ในปีถัดไปเขาได้เปลี่ยนอาชีพจากทำนาข้าว เป็นทำนาปลา ขุดคันดินเสริมใหญ่ขึ้น หนาขึ้น เพื่อเก็บน้ำไว้ภายในแปลงนาให้ได้มากและนานขึ้น บริเวณคันร่องก็ใช้เป็นที่เก็บปลายามลดน้ำ แต่คราวนเขาี้เลี้ยงเพาะพันธุ์ปลาสลิดมากขึ้น มีการวางแผนฟันหญ้าให้ล้มเน่าเป็นแพลงตอนให้กับปลาได้มากขึ้น ฟันหญ้าไปเรื่อยๆ จนหมดทั้งที่ พอดีกับถึงระยะจับปลา ปรากฎว่าได้ผลดีกว่าปีก่อนไปอีก เขาจับปลาได้เป็นกอบเป็นกำ เงินที่ได้มา มากพอที่จะไถ่ถอนที่ดินที่ไปจำนองจำนำไว้ได้หมด
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า แม้ยามที่เราคิดว่าได้สูญเสียอะไรไปแล้ว อย่าท้อใจ ตั้งสติ และใชัความคิดอย่างมีเหตุมีผล แ้ล้วเราก็จะแก้ปัญหานั้นได้ เรื่องนี้ ถ้าใครไม่รู้ ก็ลองไปแถวบางบ่อ สีล้ง จังหวัดสมุทรปราการ แล้วถามหา "คุณตาผัน ปลาสลิดทอง" ท่านจะได้ฟังตำนานของเกษตรกรนักคิด นักสู้ แม้ในวันนี้ บ่อปลาสลิดในย่านนั้น แทบจะไม่มีเหลือแล้ว แต่ตำนานของคุณตาผันก็ยังคงอยู่
No comments:
Post a Comment