หน่วยที่ 10. การประหยัดไฟฟ้าในภาคธุรกิจ (Commercial sector)
ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
มูลนิธิก้าวไกลในเอเซีย
SpringBoard4Asia Foundation (SB4AF)
Tel: +66 2 3548254, +66 2 3548255
Fax: +66 2 3548255
Email: pracob@sb4af.org
Blogger: http://pracob.blogspot.com
Keywords: cw310, พลังงาน, energy, energy, conservation
การประหยัดไฟฟ้าในภาคธุรกิจ (Commercial sector)
การประหยัดไฟฟ้าในภาคธุรกิจ ดังเช่น
ปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมศูนย์การค้า – ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ 1 แห่งใช้ไฟฟ้าเทียบเท่ากับประชากรทั้งอำเภอในต่างจังหวัด เหตุผลสำคัญคือเรื่องของการใช้พลังงานไปเป็นอันมากกับการปรับอากาศ และการให้แสงสว่าง ซึ่งเป็นทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน
สิ่งที่เปลืองมากที่สุดในเขตร้อนอย่างประเทศไทย คือเรื่องของการปรับอากาศ ใช้พลังงานถึงร้อยละ 30
การใช้แสงสว่างที่ร้อยละ 25 ดังนั้นการออกแบบอาคารพาณิชย์ที่ใช้แสงสว่างธรรมชาติได้มากเท่าใด ก็จะประหยัดการใช้ไฟฟ้าไปได้มากตามตัว เพราะคนเราในเกือบทุกที่ทำงาน มักจะทำงานกันในเวลากลางวัน แต่หากการออกแบบเน้นการสร้างอาคารที่ใช้ความกว้างมาก มีห้องซับซ้อน ไม่มีหน้าต่าง ก็จะต้องใช้ไฟฟ้าทดแทน
นอกจากนี้คือการเลือกใช้หลอดไฟที่เหมาะสม คือการใช้หลอดประเภท LED เป็นหลอด Fluorescent ทีประหยัดไฟกว่าหลอดธรรมดาถึง 4 เท่า
จับจ่ายใกล้บ้าน เดินทางใกล้ สินค้าอาจแพงบ้าง แต่ร้านข้างบ้านไม่ต้องติดเครื่องปรับอากาศ เราไม่ต้องเดินทางไปไกล ให้เสียค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ไม่ไปเสริมปัญหาการจราจรติดขัด
สร้างวัฒนธรรมร้านอาหารใหม่
เมืองไทยกำลังเป็นเมืองร้านอาหาร (Restuarants) เพราะมีผู้คนที่ฝากชีวิตกับบริการร้านอาหารกันมากขึ้น เพราะการทำอาหารที่บ้านนั้นมีความยุ่งยากทั้งการทำ และการล้างชามและภาชนะต่างๆ ประกอบกับการรับประทานอาหารเป็นการพักผ่อนสันทนาการอย่างหนึ่ง
ในประเทศไทยมีร้านอาหารเปิดบริการกันทั่วทุกสายถนน มีทั้งร้านอาหารราคาประหยัด และร้านที่มีราคา ร้านรองรับนักท่องเที่ยว แต่ร้านอาหารเป็นอันมาก เป็นส่วนหนึ่งของการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็นอยู่มาก ซึ่งต้องทำและสามารถสร้างวัฒนธรรมใหม่ได้
ร้านอาหารบรรยากาศเปิด (Open Air Restuarant)
ร้านอาหารที่ออกแบบมาให้แขกชอบที่จะนั่งนอกห้องปรับอากาศ ชื่นชมธรรมชาติได้ ก็จะประหยัดพลังงานได้มาก
การจัดบริเวณที่ร่มรื่น
ร่มไม้ที่ร่มรื่นแบบสวนเขตร้อน ช่วยสร้างบรรยากาศให้คนอยากนั่งภายนอกอาคาร หรือนอกห้องปรับอากาศ
ร้านอาหารริมทะเล (Seaside Restuarants)
นักท่องเที่ยว ได้เที่ยวทะเล ถ้าอากาศไม่ร้อนจนเกินไป ก็อยากนั่งริมทะเลชื่นชมกับธรรมชาติ มากกว่าจะไปนั่งในห้องปรับอากาศ จึงต้องมีวิธีการจัดการให้ไม่ได้รับแสงแดดที่ร้อนเกินไป แต่ขณะเดียวกัน ได้รับลมธรรมชาติกำลังพอเหมาะ
ลดการดื่มน้ำขวด
วัฒนธรรมการดื่มน้ำขวด น้ำเปล่าที่บรรจุขวด ทำให้ต้องใช้พลาสติกอย่างสิ้นเปลือง ต้องมีระบบขนส่งน้ำที่เพิ่มขึ้น ที่เป็นเช่นนี้ เพราะความเชื่อในความสะอาดของน้ำที่บรรจุขวด เราไม่สามารถไว้วางใจในน้ำดื่มที่จะต้องบริโภคในที่ๆเราไม่คุ้นเคย เช่น ร้านอาหาร หรือที่อื่นๆ
แต่น้ำดื่มที่สะอาดนั้นอาจผลิตได้ในร้านอาหาร การมีระบบกรองน้ำที่บ้าน ที่ทำงาน หรือร้านอาหารได้โดยไม่ต้องไปพึ่งพาน้ำขวด และหากมีการประชาสัมพันธ์สาธิตกันอย่างจริงจัง ทำให้คนบริโภคน้ำสะอาดที่ผ่านขั้นตอนอย่างถูกต้อง แต่ไม่ต้องบรรจุขวด
การหยุดใช้น้ำดื่มจากขวดพลาสติก
ร้านอาหารมีคุณภาพในต่างประเทศ เขาจะไม่นิยมใช้น้ำดื่มจากขวด และด้วยเหตุที่ขวดพลาสติกทำมาจาก Petroleum และมีปัญหาด้านขยะ หากร้านอาหารสามารถสร้างวัฒนธรรมการให้บริการน้ำดื่มฟรี และใช้น้ำประปาที่กรอง และขจัดกลิ่นคลอรีนแล้ว ก็จะเป็นบริการที่ดีได้ โดยช่วยด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงาน
ระบบกรองน้ำ (Water filters)
ปกติน้ำประปามีการฆ่าเชื้ออยู่แล้วด้วยสารคลอรีน แต่อาจมีกลิ่นฉุน และมีสิ่งเจือปน จึงควรใช้เครื่องกรองน้ำ เครื่องกรองน้ำบางระดับสามารถกรองให้ได้น้ำใสสะอาด ปราศจากสีและกลิ่น บริโภคได้อย่างมั่นใจ
ใช้ติดตั้งที่ร้านอาหาร สำนักงาน หรือบ้านได้ตามความเหมาะสม
ร้านอาหารต่างประเทศเขาบริการน้ำฟรี โดยใช้น้ำประปาที่กรองแล้วนี้แหละ แต่เขามีวัฒนธรรมจ่ายค่าทิปสำหรับบริกร และการบริการน้ำดื่มในแก้วปกติ ดูจะมีรสนิยมกว่าการดื่มน้ำจากขวด หรือต้องรินจากขวดพลาสติก
นอกจากนี้คือการดื่มน้ำขวดนำไปสู่การผลักดันให้ดื่มน้ำขวดใส่สี ใส่ Carbonate ใส่น้ำตาล ทำให้บริโภคแคลอรี่เกินความจำเป็นของร่างกาย เกิดโรคอ้วน โรคเบาหวานมากเพิ่มขึ้นอีก
การไม่ใช้แสงเกินความจำเป็น
การใช้แสงเกินความจำเป็น (Over-illumination) เป็นการใช้แสงจ้าที่เกินความจำเป็นของกิจกรรมนั้นๆ ในช่วงปี ค.ศ. 1950-1990 ซึ่งคนยังไม่กังวลและตระหนักในด้านวิกฤติพลังงานกันมากนักนั้น ได้พบว่าตามร้านรวงของประเทศตะวันตก โดยเฉพาะในอเมริกาเหนือ ได้มีการใช้แสงเกินความจำเป็นกันมาก
ปัญหาการใช้แสงมากเกินจำเป็นนั้นมี 2 ประเด็นคือ
1. การทำให้ใช้พลังงานไฟฟ้า เกินความจำเป็น เป็นความสิ้นเปลือง
2. เป็นผลเสียต่อสุขภาพ คนบางคนอยู่ในสภาวะใช้แสงมากทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ หรือทำให้เสียสายตา
การมีที่พักที่ทำงานที่มีขนาดความกว้างของอาคารไม่มากนัก ทำให้ห้องโดยส่วนใหญ่ติดกับหน้าต่าง สามารถเปิดรับลมธรรมชาติได้ และมีแสงสว่างตามธรรมชาติได้นั้น จะช่วยทำให้ไม่ต้องใช้แสงสว่างมากเกินความจำเป็น สามารถปล่อยให้แสงแดดได้เข้ามาถึง เป็นการฆ่าเชื้อโรคที่อาจสะสมในห้องได้
Friday, May 1, 2009
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment