Sunday, April 11, 2010

การกำหนดราคารถยนต์ไฟฟ้า Nissan Leaf

การกำหนดราคารถยนต์ไฟฟ้า Nissan Leaf

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

ศึกษาและเรียบเรียงจากข่าว -Nissan prices Leaf EV at premium to Prius in Japan, Mon Mar 29, 2010 11:22pm EDT, YOKOHAMA, Japan, March 30 (Reuters) - Nissan Motor Co (7201.T)

Nissan กล่าวว่า จะขายรถยนต์ไฟฟ้า Leaf แบบ 5 ประตู โดยเริ่มราคาที่ประเทศญี่ปุ่นประมาณ USD 40,640 และเมื่อได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล ราคาถึงผู้บริโภคจะลดลงไปทำให้ผู้บริโภคได้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าในราคาใกล้เคียงกับรถทั่วไป

Nissan หวังว่าจะขายรถยนต์ไฟฟ้า Leaf ได้ 6,000 คัน ภายในมีนาคม ค.ศ. 2011 และนับเป็นรถไฟฟ้าที่ผลิตเป็นจำนวนมากที่เป็นรถพลังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ทั้งหมด (All-electric model) และบริษัทจะรับคำสั่งซื้อในตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 2010 ในประเทศญี่ปุ่น และจะรับรถได้ในเดือนธันวาคม

คาดว่าราคารถ Leaf เมื่อได้รับส่วนลดเงินสนับสนุนจากรัฐบาลกลางแล้ว จะมีราคาเหลือประมาณ USD 32,373 แต่กระนั้น เมื่อเทียบกับรถยนต์ Prius Hybrid ของ Toyota Motors ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสมใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งปัจจุบันขายได้ในราคาทั่วไปที่ USD 22,195 ที่ประเทศญี่ปุ่น

สิ่งที่ทำให้ราคารถไฟฟ้าทั้งระบบมีราคาสูงอยู่มาก คือเรื่องราคาแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นแบบ Lithium-ion ซึ่งยังมีราคาสูงอยู่ หากไม่มีการสนับสนุนโดยรัฐบาลแล้ว ก็จะเป็นการยากที่จะผลักดันให้คนทั่วไปที่ต้องคิดราคาค่าใช้จ่ายแท้จริงเมื่อรวมถึงค่าน้ำมัน หรือค่าไฟฟ้าด้วยแล้ว

ในสหรัฐอเมริกา ผู้ซื้อจะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีคันละ USD 7,500 สำหรับผู้ที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Nissan Leaf, หรือ Chevy Volt อันเป็นรถไฟฟ้าลูกประสมเสียบปลั๊กของบริษัท General Motors รถ Nissan Leaf ในสหรัฐอเมริกาจะมีราคาหลังรับการสนับสนุนแล้วที่ประมาณ USD 25,000-30,000 ซึ่งเมื่อรวมกับการใช้ไฟฟ้าที่มีราคาค่าใช้จ่ายประหยัดกว่าน้ำมัน ก็จะทำให้รถยนต์ไฟฟ้า Leaf มีความน่าใช้มากยิ่งขึ้น

ภาพ รถยนต์ไฟฟ้า Nissan Leaf ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าแบบทั่้งระบบ


ภาพ รถไฟฟ้าลูกประสมเสียบปลั๊ก (PHEV) ใช้ไฟฟ้าจากระบบแบตเตอรี่ ร่วมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.4 ลิตร

แม้ Nissan จะตามหลังบริษัทรถยนต์คู่แข่งอย่าง Toyota Motor และ Honda Motor อย่างมากในด้านรถยนต์ไฟฟ้าลูกประสม (Hybrid) แต่ Nissan และหุ้นส่วนหลัก Renault SA แห่งประเทศฝรั่งเศสต่างเชื่อว่ารถไฟฟ้าทั้งระบบจะกลายเป็นรถกระแสหลักในที่สุด นอกจากนี้ Nissan ยังเชื่อว่าตลาดรถยนต์ในโลกปี ค.ศ. 2020 หรืออีก 10 ปีข้างหน้า รถยนต์ไฟฟ้าทั้งระบบจะมีส่วนแบ่งตลาดประมาณร้อยละ 10

Nissan เชื่อว่าจากความร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจหลายแห่งทั่วโลก และรวมถึงการสนับสนุนโดยรัฐบาลสหรัฐและในประเทศกลุ่มยุโรป จะทำให้บริษัทสามารถเข้าครองตลาดด้านการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้

ในปัจจุบัน Leaf มีระยะการวิ่งได้ 160 กิโลเมตร รถไฟฟ้าบางบริษัทได้ทำให้รถวิ่งได้ในระยะทางที่ไกลกว่านี้ด้วยการชาร์ตไฟเพียงครั้งเดียว แต่การวิเคราะห์แล้ว การทำให้วิ่งได้ในระยะทางที่ไกลขึ้นนั้น ทำให้รถมีน้ำหนักตัวมากขึ้น ต้องรับต้นทุนด้านราคาแบตเตอรี่ที่มากขึ้นด้วย ดังนั้นจึงกำหนดขนาดแบตเตอรี่ที่พอวิ่งได้ 160 กิโลเมตร ซึ่งเป็นการเพียงพอสำหรับการขับรถไปทำงานแบบไปเช้าเย็นกลับ (Commuting) ทั่วๆไป และหากใช้รถไฟฟ้าแบบ Leaf ขับทุกวันๆละ 120 กิโลเมตร ในหนึ่งปี เขาจะวิ่งระยะทางได้ 42,000-45,000 กิโลเมตร หากคิดราคาค่าน้ำมันในปัจจุบันที่กิโลเมตรละ 3 บาท ก็จะทำให้ต้องใช้นำมันปีละ 126,000 บาทไทย คิดเป็นเวลา 10 ปี ก็จะมีราคาค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันประมาณกว่า 1 ล้านบาท ซึ่สูงมากทีเดียว นับเป็นความคุ้มระยะยาวได้ หากได้ไฟฟ้าที่ไม่ใช่ผลิตจากน้ำมัน หรือเชื้อเพลิงจาก Fossil หรือ Petroleum ดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบันของประเทศอย่างไทย และสหรัฐอเมริกา

แต่อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีด้านแบตเตอรี่ยังก้าวหน้าต่อไป ราคาก็จะลดลงไปอีก ส่วนราคาน้ำม้นมีแต่จะแพงขึ้น ดังนั้นจึงมีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เป็นอันมากได้หันมาให้ความสำคัญในการพัฒนาแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า และด้วยความที่แต่ละเมืองจะมีมาตรฐานในการกำหนดค่ามลพิษที่ทำให้รถยนต์ทั่วไปต้องปรับเปลี่ยนและเปิดทางสำหรับการใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น ดังตัวอย่างในเมืองใหญ่ในแคลิฟอร์เนีย หรือกรุงลอนดอนในประเทศอังกฤษที่มีค่าเข้าเมืองที่เรียกว่า Congestion control Zone (CCZ) การจะใช้รถไฟฟ้าก็จะยิ่งเพิ่มความได้เปรียบมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ และหากจะต้องใช้ในบางภารกิจที่ต้องวิ่งในระยะยาวกว่านี้ ก็อาจไปเช่ารถที่เป็นแบบ Hybrid และแบบ PHEV หรือรถไฟฟ้าลูกประสมน้ำมันแบบเสียบปลั๊กเป็นครั้งคราวได้ และปัจจุบัน ธุรกิจการมีรถให้เช่าบริการนั้น ก็กว้างขวางทั่วโลก

No comments:

Post a Comment