Monday, August 29, 2011

กฎข้อที่ 10 ระวังการติดเชื้อ หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เกิดทุกข์และนำมาซึ่งโชคร้าย

กฎข้อที่ 10 ระวังการติดเชื้อ หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เกิดทุกข์และนำมาซึ่งโชคร้าย

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail:
Pracob@sb4af.org

ศึกษาและเรียบเรียงจาก “กฎการใช้อำนาจ 48 ข้อThe 48 Laws of Power”, 1998 โดย Robert Greene and Joost Elffers.

Keywords: power48, Administration, การบริหาร, management, การจัดการ, power, อำนาจ

Infection: Avoid the Unhappy and Unlucky
ระวังการติดเชื้อ หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เกิดทุกข์และนำมาซึ่งโชคร้าย

ท่านอาจตายได้จากสถานะทางอารมณ์ของคนบางคนที่อาจก่อทุกข์และนำโชคร้ายให้กับท่าน ท่านอาจรู้สึกว่ากำลังไปช่วยเขาไม่ให้จมน้ำ แต่มันอาจกลับทำให้ท่านนั้นต้องรับภัยพิบัติเสียเอง คนบางคนมีลักษณะที่จะนำสิ่งเลวร้ายมาให้ท่าน คนบางคนที่เป็นดังสายล่อฟ้า นำฟ้าผ่ามายังเรา เป็นเหมือนโชคร้ายและโรคร้ายในตัวของมันเอง และมันก็จะลามมาถึงท่าน จงมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคนที่เขามีความสุข และนำโชคดีมาให้เราจะดีกว่า

มีผู้แนะนำในการเข้าไปเกี่ยวข้องกับคนมีอำนาจ ดังระบบกษัตริย์ในสมัยโบราณ ดังเขากล่าวว่า “เจ้านั้นเปรียบเหมือนดวงอาทิตย์ อยู่ไกลก็หนาว อยู่ใกล้ก็อาจเผาไหม้ อยู่ในระดับกลางๆนั้นแหละดี”

การอยู่ในระดับไกล ก็เหมือนกับความห่างจนไม่สามารถได้รับประโยชน์จากผู้มีอำนาจนั้นเลย แต่อยู่ใกล้ ก็มีอาจได้รับทุกข์โดยตรงจากความไม่โปรดปรานของกษัตริย์ หรือพระองค์อาจชอบ แต่ข้าทาสบริวารแวดล้อมอาจไม่ชอบ เพราะมีความอิจฉาริษยา และกลั่นแกล้งจนได้รับภัยในที่สุด

ตัวอย่างพระเจ้าเฮนรีที่ 8

พระเจ้าเฮนรีที่ 8 และมเหสีองค์ที่สอง คือ Anne Boleyn ที่มีชีวิตรักที่ทั้งสับสน รุนแรง และเกี่ยวพันกับอนาคตของประเทศอังกฤษในยุคสมัยอย่างมาก จนต้องมีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์


ภาพ พระเจ้าเฮนรีที่ 8 (Henry VIII) แห่งราชวงศ์ Tudor

พระเจ้าเฮนรีที่ 8 เกิดเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 1491 สวรรคตเมื่อวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 1547 เป็นกษัตริย์ของประเทศอังกฤษตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 1509 จนกระทั่งสวรรคต พระองค์ทรงตำแหน่ง Lord และต่อมาได้รับสถาปนาเป็นกษัตริย์แห่งไอร์แลนด์ และอ้างสิทธิในอาณาจักรฝรั่งเศส พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 เป็นกษัตริย์องค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์ทูดอร์ (House of Tudor)และเป็นผู้สืบราชสมบัติต่อจากพระเจ้าเฮนรีที่ 7 (Henry VII) ผู้เป็นพระบิดา

พระเจ้าเฮนรี่ทรงเป็นที่รู้จักกันในฐานะมีมเหสี 8 องค์ และเป็นผู้ที่ทำให้เกิดคริสตจักรนิกาย Church of England แยกออกมาจากศาสนจักรกระแสหลักคือ Roman Catholic Church ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านนี้ มีทั้งผู้ที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย

พระเจ้าเฮนรีเมื่อยังหนุ่ม เป็นคนรูปงามและเป็นชายมีเสน่ห์ เป็นคนมีการศึกษาฉลาด และมีความสามารถ พระองค์เป็นทั้งนักประพันธ์และแต่งเพลง เมื่อปกครองก็ปกครองด้วยอำนาจอย่างเด็ดขาด แต่เมื่อเป็นกษัตริย์มีความกังวลอย่างมากว่าจะไม่มีผู้สืบราชบัลลังค์ เพราะเชื่อว่าการมีพระธิดาจะไม่สามารถสร้างความเป็นปึกแผ่นให้กับราชวงศ์ทูดอร์ (Tudor Dynasty) ได้ เพราะในช่วงดังกล่าว อังกฤษเพิ่งบอบช่ำจากสงครามกลางเมืองแย่งชิงอำนาจระหว่างราชวงศ์ที่เรียกว่า Wars of the Roses

กรณีที่เป็นเรื่องก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างคริสตศาสนาที่มี ศูนย์กลางอยู่ที่กรุงโรม กับระบอบกษัตริย์ของประเทศอังกฤษภายใต้กษัตริย์ Henry VIII ซึ่งประเด็นของเรื่องเกี่ยวข้องกับ Anne Boleyn ซึ่งเป็นสตรีผู้มีเสน่ห์ดึงดูดใจของกษัตริย์เฮนรี ซึ่งได้ทรงอภิเสกสมรสกับพระนาง Catherine แล้ว ภายใต้การรับรองของคริสตศาสนาอันมีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงโรม แต่เพราะความรักที่มีต่อ Anne Boleyn ที่ทำให้กษัตริย์เฮนรีต้องหย่าขาดกับ Catherine แล้วกลายเป็นความบาดหมางกับศาสนา ซึ่งในระยะต่อมาทำให้เกิดคริสต์ศาสนานิกาย Church of England แยกออกมาจากคริสตศาสนาหลักภายใต้การนำของกรุงโรม


ภาพ Anne Boleyn

Anne Boleyn จึงกลายเป็นแพะผู้สร้างรอยร้าวระหว่างศาสนากับฝ่ายกษัตริย์ และขณะเดียวกัน ก็กลายเป็นผู้ที่ประชาชนส่วนหนึ่งไม่ชอบ ที่มีคนมาฝืนประเพณีของศาสนา และทำให้อังกฤษถูกตัดขาด ทั้งพระเจ้าเฮนรี และ Thomas Cranmer ผู้นำศาสนาของอังกฤษ (Excommunication) ถูกตัดขาดออกจากคริสตศาสนา

Excommunication = ตามพจนานุกรม เป็นนาม หมายถึง การขับไล่, การคว่ำบาตร, การไล่ออก, การตัดออกจากศาสนา

Anne Boleyn เกิดเมื่อราวปี ค.ศ. 1501 – 1507 และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 1536 ได้เป็นพระราชินีของอังกฤษ (Queen of England) ในช่วงปี ค.ศ. 1533 ถึง 1536 เป็นมหาสีองค์ที่สองของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 และเป็น Marquess of Pembroke ด้วยสิทธิของเธอเอง พระเจ้าเฮนรี่อภิเษกกับนาง แต่ในที่สุดก็สั่งประหารนาง และทำให้ในประวัติศาสตร์ได้บันทึกถึงเธอที่มีส่วนทำให้ศาสนจักรของอังกฤษต้องแยกออกจากโรมันคาธอลิก และเป็นจุดที่ทำให้เกิดศาสนจักรใหม่ของอังกฤษ เรียกช่วงของการเปลี่ยนแปลงนี้ว่า English Reformation และนิกายใหม่ที่คนอังกฤษนับถือ คือ Church of England

Anne เป็นคนสามัญชน เกิดจาก Thomas Boleyn, 1st Earl of Wiltshire และภรรยาชื่อ Lady Elizabeth Howard และได้รับการศึกษาในเนเธอร์แลนด์และฝรั่งเศส ในช่วงปี ค.ศ. 1522 เธอกลับมาเพื่อจะแต่งงานกับญาติ ชื่อ James Butler, 9th Earl of Ormond แต่การแต่งงานก็ต้องเลิกไป เมื่อเธอได้เข้าทำงานเป็นเป็นนางรับใช้ในราชสำนัก (Maid of Honour) โดยดูแลพระมเหสี Catherine of Aragon ระหว่างที่พระเจ้าเฮนรีสนพระทัยและมีสัมพันธ์กับเธอ เธอได้สื่อสารอย่างชัดแจ้งว่าจะไม่ยอมรับเป็นเพียงนางสนมหรือหนึ่งในภรรยาหลายคนของพระเจ้าเฮนรี่ จนในที่สุดนำไปสู่การที่พระเจ้าเฮนรีต้องหย่าจากพระนาง Catherine เพื่ออภิเษกกับ Anne โดยที่การอภิเษกนี้ไม่เป็นที่ยอมรับของผู้นำศาสนจักรที่กรุงโรม คือ Pope Clement VII และถือเป็นการตัดขาดคริสตจักรแคธอลิก (Catholic Church) จากนิกาย Church of England และในอังกฤษ พระมหากษัตริย์จึงเป็นผู้นำและอุปถัมภ์ Church of England ตั้งแต่นั้นมา

Anne ได้รับสถาปนาเป็นพระราชินีแห่งอังกฤษในวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 1533 และในวันที่ 7 กันยายน ค.ศ. 1533 ได้ให้กำเนิดพระราชธิดา ซึ่งต่อมาคือ Elizabeth I of England กษัตริย์แห่งอังกฤษ ผู้มีส่วนทำให้อังกฤษมีความเจริญรุ่งเรื่องที่สุดสมัยหนึ่ง

พระเจ้าเฮนรีทรงมีความกังวลอยากที่จะได้พระโอรส เพื่อการสืบราชวงศ์ และนั่นเป็นการกดดัน Anne อย่างมากที่แม้มีพระธิดาอันเป็นที่โปรดปรานของกษัตริย์เฮนรี แต่ก็ไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้ จนในภายหลังพระเจ้าเฮนรีได้เลื่อนคุณหญิง Jane Seymour มาเป็นพระมเหสีองค์ที่สามแทน และหลังจากที่แอนได้มีปากเสียงและขัดแย้งกับพระเจ้าเฮนรี ในที่สุดก็ถูกกำจัด และถูกตั้งข้อหารุนแรงด้วยคนแวดล้อมของพระเจ้าเฮนรี และในที่สุดต้องได้รับการพิจารณาคดีที่ถูกกล่าวหาที่ร้ายแรง คือ การมีชู้ การร่วมประเวณีระหว่างพี่น้อง และการขายชาติ (Charges of adultery, incest and treason)

Adultery = นาม, กาเมสุมิจฉาจาร, การผิดประเวณี, การเป็นชู้, การนอกใจ
Incest = การร่วมประเวณีระหว่างพี่น้อง
Treason = นาม หมายถึง กบฏ, การกบฏ, การขายชาติ

ในที่สุด Anne ก็ต้องโทษหลังถูกคุมขังอยู่ที่ London Tower เป็นเวลานานก่อนถูกตัดสินประหารชีวิตไปพร้อมกับญาติที่ถูกกล่าวหา

George Boleyn ผู้เป็นญาติและถูกกล่าวหาว่าเป็นชู้แม้ไม่มีหลักฐาน ก็ถูกประหารในวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 1536 อีกสองวันต่อมา ในเช้าวันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม Anne Boleyn ก็ถูกประหารด้วยดาบ หลังกษัตริย์ลดโทษจากให้เผาทั้งเป็น

No comments:

Post a Comment