Friday, August 19, 2011

สุภาษิตชาวเตอร์ก - ความอดทนนั้นขมขื่น แต่ผลของมันหอมหวาน


สุภาษิตชาวเตอร์ก - ความอดทนนั้นขมขื่น แต่ผลของมันหอมหวาน

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob.cooparat@gmail.com

Keywords: proverbs, สุภาษิต, Turkey, Turkish, patience, ความอดทน, การเมือง, การหาเสียง, bitter, sweet fruit

มีสุภาษิตชาวเตอร์กบทหนึ่งสอนว่า “Patience is bitter, but it bears sweet fruit.” แปลเป็นไทยได้ว่า “ความอดทนนั้นขมขื่น แต่ผลของมันหอมหวาน”

Patience = นาม, ความอดทน, ขันติ, ความทรหดอดทน, ขันติ
Patience ในส่วนหนึ่งคือความอดทนฟัง

Patience คือความอดทน ยอมที่จะใช้เวลา ไม่เร่งร้อน, ปล่อยให้มันดำเนินการไปตามขั้นตอน และตามจังหวะของมัน ความอดทนอาจหมายถึง การทนเหนื่อย ทนหิว ทนยากจน ทนอด แต่ที่สำคัญที่สุดประการหนึ่ง คือการทนที่จะใช้เวลารับฟัง

การฟัง คือการที่ต้องอดทน การฟังคือโอกาสที่เราจะเข้าใจฝ่ายตรงกันข้ามว่าเขามีความคิดเห็นอย่างไร อะไรที่ทำให้เขาไม่พอใจ อะไรคือความต้องการของเขา เมื่อเราฟัง เราได้มีโอกาสได้ข้อมูลที่เราอาจไม่ได้รับ หากเราจะเป็นแต่เพียงผู้พูดด้านเดียว

การฟังในพวกเดียวกัน ก็เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ทั้งมวล ได้รับข้อมูลอันเป็นประโยชน์ในการประสานงาน การปรับแก้สิ่งที่อาจมีการเดินผิดพลาด

การฟังไม่จำกัดว่าฟังคนที่เขาหวังดีต่อเรา แต่อาจหมายถึงฟังคนที่พูดโดยหวังจะทำร้ายเรา พูดในสิ่งที่เราเองอาจไม่อยากฟัง แต่กระนั้น เราก็ยังได้ประโยชน์หากอดทนรับฟังสิ่งเหล่านั้น

การฟังอาจรวมไปถึงฟังคนที่เขาเป็นปรปักษ์กับเรา การได้ฟังว่าเขาคิดอย่างไรกับเรา หรือเขามีทัศนะต่อประเด็นนั้นๆอย่างไร เราก็ได้ประโยชน์ โดยกลับมาตรวจสอบในสิ่งที่เขาพูดว่ามีเหตุผลมากน้อยเพียงใด มีอะไรที่เป็นจุดอ่อนของเราที่ควรต้องนำมาปรับปรุงแก้ไข มีอะไรที่แสดงว่าเป็นความเข้าใจผิด ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็ต้องให้มีการชี้แจงและให้ข้อมูลที่ถูกต้อง

ตัวอย่างการเป็นนักการเมือง

นักการเมืองทั่วไป จะลงเยี่ยมชาวบ้าน ก็เมื่อลงไปหาเสียงเพื่อรับการเลือกตั้ง เมื่อลงไปนั้น ก็จะไปบอกว่า เขาจะทำอะไร มีอะไรที่ดีๆให้กับชาวบ้าน และยามนั้นจะไม่มีเวลาไปรับฟังชาวบ้านแล้ว แต่หลังจากที่เขาได้รับการเลือกตั้ง มีนักการเมืองเป็นอันมากที่จะไม่ค่อยใช้เวลาในการลงไปเยี่ยมเยียนชาวบ้าน รับฟังปัญหาจากชาวบ้าน เขาจะใช้เวลาในการเจรจาความและผลประโยชน์ในวงแคบๆในระดับสูงขึ้นไป วิ่งเข้าหาผู้ใหญ่ หรือทำเรื่องเพื่อให้เกิดการอนุม้ติ แล้วเขาได้ประโยชน์ นักการเมืองลักษณะดังกล่าวจะมีอยู่มาก แต่จะไม่มีอนาคต และไม่ได้เป็นอนาคตของบ้านเมือง

นักการเมืองอีกประเภทหนึ่ง อาจไม่ได้พูดมาก แต่พูดสื่อความหมายอย่างที่ต้องการได้ดีพอ แต่สิ่งที่จะเป็นจุดเด่นของเขาคือการลงไปพื้นที่ เพื่อไปรับฟังปัญหา เมื่อรับฟังปัญหาแล้วนำมาตรวจสอบอย่างจริงจังและจริงใจ อาจมีบางส่วนที่เป็นเพียงเสียงบ่น ชาวบ้านบ่นแล้วก็พอใจ อาจมีบางส่วนที่เป็นเสียงโอดครวญ หรือแสดงความไม่สามารถอดกลั้นต่อไปได้แล้ว มีหลายสิ่งที่ปัญหานั้นเป็นวิกฤติที่อาจนำไปสู่โอกาส ทำให้มีการแก้ไขปัญหาที่มีผลกว้างไกล ปัญหาไม่ว่าจะใหญ่โตมากมายแค่ไหน หากเรารู้และยอมรับว่าเป็นปัญหา และปัญหาจะมีทางออก เมื่อมีคนที่นำสติ ปัญญา ความอดทน วิสัยทัศน์ และวิทยาการใหม่ๆมาร่วมกัน ระดมความคิด แล้วนำกลับไปทำเป็นแผนงาน เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอยางจริงจังต่อไป

ดังนั้น เมื่อเราจะเป็นใหญ่ เป็นคนที่ต้องก้าวหน้าต่อไป จงอย่ารีบร้อน ขอให้ระลึกถึงสูภาษิตชาวเตอร์กที่ว่า “ความอดทนนั้นขมขื่น แต่ผลของมันหอมหวาน

No comments:

Post a Comment