Monday, January 11, 2010

นานาสาระเกี่ยวกับการมีรถยนต์และการจอดรถยนต์

นานาสาระเกี่ยวกับการมีรถยนต์และการจอดรถยนต์

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

ความนำ

ในประเทศไทย เรามีอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 14-15 ของโลก ราคารถยนต์ในประเทศไทย โดยรวมๆถูกลงในช่วงเวลา 20 ปีที่ผ่านมา เมื่อเปรียบเทียบกับสินค้าชนิดอื่นๆ ดังเช่นการจะซื้อหารถยนต์สักคันหนึ่งในปัจจุบันนี้ คนมีเงินเดือนระดับ 2-3 หมื่นบาท ก็มีความสามารถที่จะผ่อนรถมาใช้ได้แล้ว หากใช้รถมือสอง หรือรถใช้แล้ว ก็จะมีราคาถูกลงไปอีก คนในต่างจังหวัดมีการซื้อหารถบรรทุกอเนกประสงค์ อย่างที่เรียกว่า Pickup Truck เพื่อใช้ทั้งการเดินทาง บรรทุกคน และรับส่งสินค้า ในด้านถนนหนทาง ก็มีการสร้างและขยายทางหลวง และทางในเมืองต่างๆ อย่างมากมาย แต่ก็มีปัญหาบางอย่างที่เป็นปัญหาวนเวียน คือเมื่อมีการใช้รถยนต์มาก ระบบรถสาธารณะ การขนส่งมวลชนก็ไม่พัฒนา มีปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม อากาศในเมืองเป็นพิษ การจราจรติดขัด ปัญหาการต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อนำเข้าน้ำมันปิโตรเลียมเพื่อใช้เป็นพลังงาน

อีกด้านหนึ่งที่ตามมาคือ ปัญหาด้านที่จอดรถ จะหาสถานที่อย่างไรในการจอดรถ

เพราะในเมืองขนาดใหญ่ สิ่งที่จะเป็นปัญหาตามมาคือ จะหาที่จอดรถให้กับรถเหล่านี้ได้อย่างไร ทั้งที่บ้าน ที่พักอาศัยแบบอยู่ร่วมกัน ดังอพาร์ตเมนต์ หรือคอนโดมีเนียม หรือเมื่อเข้ามาทำงานในเมือง ไปจับจ่ายใช้สอย จะมีที่จอดรถที่ไหน จะต้องมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวข้องอย่างไร

ในบทความนี้ จะเสนอศัพท์เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับที่จอดรถ (Car Parks) เอาไว้เป็นพื้นฐาน และเพื่อใช้เป็นฐานในการอภิปรายกันต่อไปในเรื่องเกี่ยวกับ การเดินทางและขนส่งในประเทศไทย

คำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง

ลานจอดรถ

ภาพ ลานจอดรถ (Parking lot)

ภาพ ลานจอดรถจักรยาน (Bicycle parking lot)

ลานจอดรถ หรือในภาษาอังกฤษเรียกว่า parking lot ในอเมริกาเหนือ และในบางประเทศอื่นๆ ดังใน Malaysia, Australia, United Kingdom และ Ireland จะรู้จักกันในคำว่า Car Park และอาจมีคำว่า Car Lot ซึ่งโดยรวมๆ ก็คือลานจอดรถ ที่ๆเตรียมไว้ให้จอดรถได้หลายๆคัน โดยทั่วไปแล้วมีการปรับผิวจราจรให้เรียบ ไม่มีน้ำท่วมขัง เพื่ออำนวยความสะดวกในการจอด ในบางสถานที่ เช่นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ในสหรัฐอเมริกา มีที่จอดรถเป็นลานกว้างขนาดใหญ่ จุรถได้นับเป็นพันๆ คัน เป็นต้น

ภาพ - แบบการจัดที่จอดรถใน Parking lot แบบเฉียง อำนวยความสะดวกในการเข้าจอด

Picture - A parking lot with landscaping and a diagonal parking pattern designed for one-way traffic.

โรงรถ

โรงรถ หรือ Garage อ่านว่า การาช หมายถึงสถานที่ที่มีการจอดรถยนต์หรือยานพาหนะต่างๆ หรือ หมายถึง อู่หรือสถานที่ซ่อมหรือให้บริการรถ

ภาพ โรงจอดรถชนาดใหญ่ (Parking garage) จุรถได้หลายร้อยคัน

ในบางกรณีเราจะเห็นมีการใช้คำว่า Parking garage หมายถึงสถานที่ให้บริการจอดรถยนต์ ดังเช่นกรณีของสถานที่ให้บริการควบคู่ไปกับกิจการอื่นๆ เช่นศูนย์การค้า ร้านอาหาร หรือย่านธุรกิจที่ต้องมีคนใช้รถยนต์ และมารับบริการอื่นๆ

บริการจอดรถ

บริการจอดรถยนต์แบบมีคนขับ (Valet parking) หรือเรียกว่า parking service เป็นการให้บริการตามสถานที่ที่เขามีกิจการอื่นๆ ที่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า จึงมีบริการรับจอดรถให้ร่วมด้วย สถานที่เหล่านี้อาจได้แก่ ภัตตาคาร (restaurants) ร้านขายสินค้า (stores), หรือธุรกิจ (businesses) หรือธุรกิจประเภทอื่นๆ โดยเฉพาะในอเมริกาเหนือ (North America) ซึ่งจะแตกต่างจากการที่ผู้ไปใช้บริการจะต้องไปหาที่จอดรถเอง (self-parking)

ในประเทศไทย เมื่อเห็นบริการ Valet Parking สำหรับคนที่ทนรำคาญหาที่จอดรถไม่ได้ ก็ไปใช้บริการเขา คนมาขับรถไปจอดให้เรา เขาเรียกว่า Valet ในสถานธุรกิจหลายแห่ง เช่น ห้างสรรพสินค้า หากไปหาที่จอดรถเอง อาจหมดอารมณ์ไปมาก เสียเวลาไปอีกมาก หากไปใช้บริการของเขา ซึ่ง เขารู้ที่จะมีที่จอดรถที่อาจขอบริการความร่วมมือที่อาจไกลออกไป คนไปใช้บริการ ก็ต้องไว้ใจมอบรถให้เขาขับไปจอด และเมื่อทำธุระเสร็จก็ไปรับรถคืน ณ ที่ๆเขากำหนด หลายแห่ง

โรงจอดรถสาธารณะ


ภาพ สถานที่จอดรถแบบลานจอด ร่วมกับอาคารจอดรถที่จัดเป็นหลายชั้น

ภาพ Parking garage ที่เป็นแบบหลายชั้น ตามความจำเป็น แต่หากชั้นจอดรถยิ่งสูงเท่าใด ก็จะเป็นความยุ่งยากแก่ผู้จอดรถยนต์ที่ต้องขับรถเวียนขึ้นไปจอดชั้นบน ซึ่งต้องมีการบริหารชั้นการจอดที่ดี่ เช่นรถที่เข้าจอดเพียงชั่วคราว สามารถเวียนเข้าเวียนออกกันบ่อย ก็จัดไว้ในชั้นล่าง แต่ถ้าพวกที่จะจอดระยะยาว ก็ไปอยู่ในชั้นบนๆ

ส่วนสถานที่จอดรถยนต์นั้น เรียกว่า Parking garage อาจเป็นสถานที่ดำเนินการโดยธุรกิจ หรือเป็นของระบบบริหารเมือง หรือเป็นของรัฐบาล บางเมือง หากไม่มีการให้บริการจัดสถานที่จอดรถให้ เมืองนั้นก็ซบเซา คนก็หันไปจับจ่ายตาม Super Mall ที่อยู่นอกเมืองไกลออกไป ภาษีและรายได้ก็จะไม่ตกอยู่กับเมือง เมืองนั้นๆ ก็จะต้องเฉาลงเรื่อยๆ บรรดาฝ่ายบริหารเมือง ก็ต้องหาทางให้บริการด้านที่จอดรถยนต์แก่ผู้ต้องมาทำธุรกรรมต่างๆของเมือง สถานที่จอดรถนี้ หากเป็นเมืองใหญ่ที่สถานที่มีอย่างจำกัด สถานที่จอดรถก็จะมีการจัดสร้างเป็นแบบหลายๆชั้น แล้วมีทางวิ่งขึ้นและลง บางแห่งมีที่จำกัด แต่มีกลไกในการนำรถขึ้นไปจัดเก็บ ซ้อนขึ้นไปหลายๆชั้น เพื่อลดความจำกัดในการใช้สถานที่จอดรถ

ภาพ ระบบจัดเก็บรถแบบอัตโนมัติ โดยใช้ระบบลิฟต์ยกรถไปเก็บในชั้นสูงๆ

โรงจอดรถในบ้าน

ภาพ โรงจอดรถในบ้าน (Garage)

ภาพ โรงจอดรถในบ้าน (Garage) พร้อมติดตั้งระบบปิดเปิดอัตโนมัติ
(Remote control) สามารถจอดได้ 2 คัน

ภาพ Garage โรงจอดรถในบ้าน

ในกรณีที่เป็นสถานที่จอดรถในบ้าน Garage (house) ที่อยู่ภายในบริเวณบ้าน หรืออยู่ติดกับบ้าน ใช้เก็บและดูแลรถยนต์ ก็เรียกว่า Garage เหมือนกัน ในเมืองหนาว เมื่ออากาศหนาวจัด หากรถจอดไว้ในที่ๆไม่มีการดูแลเรื่องอุณหภูมิ บางทีมีปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ หรือเมื่อเข้าไปนั่งข้างในรถ เบาะรถจะเย็นจัดจนรู้สึกหนาวเหน็บ ยามฝนตกหรืออากาศไม่ดีก็เช่นกัน บ้านที่มีโรงรถ ก็จะทำให้สะดวกในการขั้นหรือลงจากรถโดยไม่เปียกฝน

แต่บ้านทุกหลังไม่มีโรงจอดรถเสมอไป ในเมืองใหญ่หลายแห่ง และหลายๆบริเวณ ผู้พักอาศัยต้องอาศัยจอดรถข้างถนน ซึ่งก็มีเวลาให้จอดรถอย่างจำกัด เพราะจะต้องมีเวลาสำหรับต้องเคลื่อนรถออกไป เพื่อให้มีการนำรถมาทำความสะอาดถนน เป็นต้น บางแห่งที่จอดรถหายาก ต้องมีคนมีอาชีพคอยช่วยย้ายรถเข้าและออกให้กับเพื่อนบ้าน

Carport

ภาพ ที้จอดรถแบบที่เรียกว่า Carport บริเวณด้านข้างและด้านหลังเป็นแบบเปิด

ภาพ Carport แบบที่ประกอบ และติดตั้งได้อย่างง่ายๆ

โรงจอดรถโดยสาร

ภาพ Bus garage มีไว้เพื่อการซ่อมบำรุง และดูแลรักษารถโดยสาร

โรงรถโดยสาร (Bus garage) หมายถึงสถานที่จอดหรือจัดเก็บรถโดยสาร ส่วนจะมีหรือไม่มีหลังคาก็ตาม บางที่กิจการด้านการเดินรถ ต้องมีอู่จอดรถของตนเอง ไม่ใช่ไปหาที่จอดรถเอาแถวๆข้างถนนใหญ่ ที่อาจทำให้ไปรบกวนจราจรของเมืองนั้นๆ

ในประเทศไทยนี้ กิจการขนส่งเอกชนเป็นอันมาก ไม่มีบริเวณที่จะจอดรถก้นอย่างเป็นกิจจะลักษณะ มีการนำรถมาจอดไว้ข้างถนนกัน

สถานเติมเชื้อเพลิง

สถานที่เติมเชื้อเพลิง (Filling station) คำว่า Filling Station นี้ น่าจะเหมาะสำหรับปัจจุบัน และอนาคตด้วย เพราะการเติมนั้น อาจไม่ได้เติมเพียงน้ำมัน แต่ในอนาคต คือการเติมไฟฟ้าเป็นพลังงานของรถยนต์ด้วย

บางแห่งเรียก Gas Station ในบ้านเราเรียกว่า ปั๊มน้ำมัน หมายถึงสถานที่สำหรับยานพาหนะจะเติมน้ำมันหรือชาร์ตไฟฟ้า ในกรณีที่ยุคต่อไปนี้ จะมีคนที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Cars) รถลูกประสมที่ต้องมีการเสียบปลั๊ก (PHEV) เพื่อชาร์ตไฟสำหรับเป็นพลังงานขับเคลื่อน ซึ่ง ณ เวลานี้ ยังไม่ได้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานกันอย่างจริงจัง ว่า ถ้าคนไม่มีบ้าน ไม่มีโรงรถ ต้องจอดรถข้างถนน ดังในบริเวณเมืองใหญ่จะทำอย่างไร หรือในกรณีที่เขาต้องไปจ่ายของตามศูนย์การค้า หรือ Super Mall ขนาดใหญ่ๆ จะมีการเตรียมการให้มีที่ชาร์ตไฟรถยนต์ไฟฟ้า และคิดค่าบริการกันอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ คงต้องมีการคิดและเตรียมการกันเอาไว้ล่วงหน้าเหมือนกัน

Park and Ride

ภาพ สัญญลักษณ์ของสถานที่ๆกำหนดให้เป็นที่จอดรถ (Park) เพื่อที่จะได้อาศัยระบบการขนส่งสาธารณะเพื่อเดินทางเข้าเมือง (Ride) เพื่อไปทำงาน หรือทำภารกิจต่างๆ โดยไม่ต้องต่างคนต่างขับกันเข้าไปแออัดในเมือง

สถานที่จอดแล้วโดยสารระบบขนส่งสาธารณะ เรียกว่า Park and ride (หรือเรียกว่า incentive parking) เป็นสถานที่จอดรถสาธารณะที่ทางรัฐบาลหรือเมืองให้การสนับสนุน เพื่อลดความจำเป็นในการต้องขับยานพาหนะเข้ามาทำงาน ทำธุรกรรม หรือเที่ยวในเมือง มักเป็นสถานที่ๆจัดไว้ให้ ณ ชานเมือง (Suburbs) แล้วมีระบบขนส่งมวลชน เช่นรถไฟฟ้า รถประจำทางด่วน หรือรถประจำทางธรรมดา เพื่อรับคนเข้ามาในเมืองอีกต่อหนึ่ง เป็นแนวคิดพยายามสร้างระบบขนคน มากกว่าต้องไปขนรถจำนวนหลายๆคันเข้ามาในเมือง ที่จะเพิ่มปัญหาการติดขัดด้านจราจร ที่จอดรถในเมือง ปัญหามลพิษจากควันเสียรถยนต์ และอื่นๆ Park and Ride จึงต้องเป็นความริเริ่มของรัฐบาล หรือระบบบริหารเมือง (Municipality) ที่จะต้องสนับสนุน เพื่ออำนวยความสะดวกของธุรกิจต่างๆของเมือง หรือย่านเมืองใหญ่ต่างๆ (metropolitan areas)

ในวัฒนธรรมแบบสังคมตะวันตก ที่อยู่อาศัยอยู่ชานเมืองไกลที่ทำงานออกไป บางที่ห่างออกไปนับเป็น 20-30 ไมล์ เขาพยายามหาวิธีการที่จะไม่ต้องต่างคนต่างขับรถก้นมาคนละนานๆดังกล่าว จึงต้องหาวิธีการส่งเสริมให้คนใช้ระบบขนส่งสาธารณะ

Kiss and Ride

ภาพ ป้ายสัญญาณ ทีให้มาจอดส่งคนชั่วคราว โดยไม่ต้องแวะจอดระยะยาว เพื่อคนที่มาส่งนั้น จะได้เดินทางไปยังที่อื่นๆด้วยระบบขนส่งสาธารณะต่อไป ซึ่งส่วนใหญ่คือ เข้าเมือง โดยไม่ต้องต่างคนต่างขับรถเข้าไปแออัดในเมือง

ภาพ สถานที่นัดส่ีงและรับคน โดยไม่ต้องมีที่จอดรถยาวนาน เรียกว่า Kiss and Ride

ในบางสถานที่ในเขตชานเมือง มีสถานที่ๆนัดมาส่งผู้โดยสาร แล้วคนขับรถก็จะเดินทางต่อไป โดยทั่วไป มักจะเป็นแม่บ้านขับรถมาส่งสามีไปทำงาน แล้วตัวเองก็ขับรถกลับไป หรือไปที่อื่นๆในเมืองต่อไป ส่วนสามีก็นั่งรถระบบขนส่งมวลชนเข้าเมืองไปทำงานต่อ และเวลากลับบ้าน ก็มีการนัดพบกัน ณ สถานที่ๆกำหนด เมื่อมารับก็จะมารับกัน ณ ที่กำหนด โดยไม่ต้องลงจากรถไปตามหา สถานที่นัดมาส่ง และมารับดังนี้ เรียกกันว่า Kiss and Ride คือส่งเสร็จก็จูบลาเป็นประเพณี ที่เป็นเช่นนี้ เพราะระบบชานเมืองระหว่างบ้านกับสถานีชานชลาของสถานีขนส่งมวลชนนั้น มักจะไม่มีสถานที่จอดรถมากพอ มาส่งคนแล้ว ก็ให้รีบออกไป เวลามารับก็เช่นกัน ให้นัดมา ณ สถานที่กำหนด เดี๋ยวนี้มีโทรศัพท์มือถือ รับมานัดกันอย่างไม่ยาก ไม่ต้องไปเดินตามตัว รู้เวลา รู้สถานที่กันดี สถานที่นัดส่ง และนัดรับนี้ เรียกในภาษาอังกฤษว่า temporary pick up and drop off zone

2 comments:

  1. ผมเขียนบทความนี้โดยเก็บข้อมูลเรื่องที่เมื่อซื้อรถ มีรถแล้ว ปัญหาอื่นๆที่จะต้องคิดและมักจะตามมา คือ ที่จอดรถ การเตรียมค่าใช้จ่ายด้านซ่อมบำรุง ค่าเชื้อเพลิง และค่าที่จอดรถ ดังในกรณีที่เมื่อต้องอยู่ในเมืองใหญ่ อย่างกรุงเทพฯ และหัวเมืองอีกหลายๆแห่ง ที่จอดรถ จะเป็นประเด็นทีต้องคิดไปพร้อมๆกับการคิดจะมีรถยนต์

    ในประเด็นนี้ หากท่านมีประสบการณ์ใดๆที่เกี่ยวข้อง สามารถส่งบทความหรือความเห็นมาได้ที่ผมครับ ผมจะไดร่วมกันนำเสนอประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคนนับล้านๆคนในประเทศไทย

    ReplyDelete
  2. คำว่า Kiss and Ride นั้น ฝรั่งเขาจะเข้าใจดี มันเป็นวัฒนธรรมของคนทำงาน ที่เมื่อภรรยามาส่ง สามีก็จะจูบลาเป็นการขอบคุณ นี่เป็นธรรมเนียมที่ดีของเขา ไม่ใช่ขับรถกันมา แล้วรถติดหัวเสียด่ากันลั่นรถ อย่างนี้ไม่ใช่สิ่งที่พึงปฏิบัติกัน

    แต่วัฒนธรรมแบบนี้จะไม่ค่อยพบกันในญี่ปุ่น ไต้หวัน หรือเกาหลี รวมถึงในประเทศไทย เพราะเราไม่มีการจูบกันในที่สาธารณะ เขินตาย ดังนั้นเวลาเขาพูดกันถึงเรื่อง Kiss and Ride ฝรั่งเข้าใจดีว่า จูบแล้วลากันไป ขับรถไปให้พ้นที่นั้นๆ เพราะให้จอดได้ช่วงสั้นๆ ต่างจาก Park and Ride คือขับมาเอง แล้วจอดในที่กำหนดให้ จอดได้ทั้งวัน ส่วนคนที่ขับรถมา ก็เข้าไปในเมือง ไปทำงาน ประกอบกิจการใดๆ ตอนเย็นกลับโดยระบบขนส่งมวลชน รถด่วน รถไฟ แล้วก็ขับรถที่จอดทิ้งไว้ในในตอนเช้ากลับบ้าน

    ในประเทศไทยเห็นที่จะต้องคิดถึงการ Park and Ride หรือ Kiss and Ride ส่วนการ Park นั้น ประเทศไทย อากาศไม่รุนแรง อาจจะเป็นจอดรถจักรยานแล้วลอคไว้ พอเสร็จธุระในเมือง ออกจากเมืองด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ก็มาขี่จักรยานกลับบ้านได้

    ส่วนเรื่อง Kiss and Ride นั้น คนไทยคนตะวันออกไม่คุ้น พาลจะไปนึกถึงการขับรถไปรับคุณตัวทั้งหลายไปเข้าโรงแรมม่านรูดเสีย จะเข้าใจผิดไปกันใหญ่

    ReplyDelete