Wednesday, January 13, 2010

สนทนากับ Dr. Michael Stanner นานาสาระในชีวิต

From: Michael Stanner
Date: 12 มกราคม 2010, 19 นาฬิกา 4 นาที 31 วินาที GMT+0700
To: pracob@sb4af.org
Subject: Varia

สวัสดีครับอ.ประกอบ

พรุ่งนี้ผมจะกลับสุรินทร์ ผมจะอยู่สุรินทร์จนถึงวันที่ 24 มกราคม 2553 แล้วจะกลับกรุงเทพฯ ผมจะอยู่กรุงเทพฯ วันเดียว แล้วจะกลับอิสราเอล

เพื่อให้อาจารย์ประทับใจว่า นักสัตววิทยา ชาวอิสราเอล/สุรินทร์ ผู้เชี่ยวชาญสัตว์เลื้อยคลานที่กำลังอยู่เมืองไทย มีแนวโน้มและแนวความคิดอะไรบ้าง กรุณาอ่านอีเมล์ฉบับต่อไปที่ผมได้ส่งถึงเพื่อน ๆ แล้ว นักสัตววิทยาสาขาเดียวกัน เป็นภาษาอังกฤษนะครับ

Michael Stanner
E-mail: malpolon2000@yahoo.com

สวัสดีครับ อ. ไมเคิล

อาจเป็นเรื่องตลกที่อาจารย์นักสัตววิทยาชาวอิสเรล เขียนจดหมายเป็นภาษาไทยถึงผม แต่ผมที่เป็นคนไทย มักจะเขียนถึงอาจารย์เป็นภาษาอังกฤษ ไม่แปลกหรอกครับสำหรับผม เพราะผมเขียนถึงอาจารย์ในขณะที่ผมอยู่ในสถานที่ๆ มีเพียง iPhone อันเล็กๆ ที่ผมสามารถใช้ได้เพียงหัวแม่มือ (Thumbs) สัมผัสกับ Virtual Keyboards เพื่อรวบรวมเป็นจดหมายสั้นๆถึงบุคคลในครอบครัว บรรดาเพื่อนๆ และลูกศิษย์ ในช่วงเวลาที่ผมต้องเดินทางไปและกลับจากต่างจังหวัด

เวลาที่ผมเขียนหรืออ่าน E-mail ส่วนหนึ่ง คือช่วงที่ผมอยู่บนรถโดยสารเดินทางไปต่างจังหวัด ผมเลือกรถโดยสาร ระบบสาธารณะ (Mass Transit System, buses) มากกว่าที่จะขับรถ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการประหยัดพลังงาน และอีกประการหนึ่ง ก็ไม่ต้องเหนื่อยขับรถเอง
ภาพ กำลังฝึกใช้ iPhone พิมพ์ด้วยสองหัวแม่มือ
ระหว่างอาหารเช้าที่ Mandarin Oriental Hotel, Hong Kong

ผมเลือกใช้รถโดยสารปรับอากาศชั้นหนึ่ง (Air-conditioned bus, first class) ที่ต้องใช้เวลาเดินทางครั้งละ 7 ชั่วโมง ไปกลับรวมครั้งละ 14 ชั่วโมง และผมจะต้องทำอย่างนี้ปีละ 22 ครั้ง ผมเขียนเป็นภาษาอังกฤษอย่างเดียว เพราะเมื่อต้องเลือกพิมพ์ด้วยเพียง 2 หัวแม่มือ (Thumb typing) ในการพิมพ์ ภาษาไทยจะยากสำหรับผม

ถูกของอาจารย์ครับ บนรถโดยสาร เขามีรายการ CD เปิดให้ชม มักจะเป็นภาพยนตร์ หรือรายการตลกโทรทัศน์ของไทย ซึ่งนานๆเข้าก็น่าเบื่อเหมือนกัน

วันนี้ผมมีเวลานั่งหน้าเครื่อง PC Notebook ที่บ้านอย่างสงบพอสมควร จึงขอเขียนเล่ากันฟังอย่างเป็นกันเอง และหวังว่าให้เป็นประโยชน์แก่คนอื่นๆ เพื่อนๆ และศิษย์ที่เข้ามาพบผมออนไลน์

เมื่ออาจารย์ถามผมว่าชอบกินอาหารแบบไหน แบบกินตามข้างถนน หรือไปกินตามศูนย์การค้า หรือกินแบบใด และผมตอบว่า ผมชอบกินในหลายๆอย่าง แต่อะไรก็ตามที่ไม่ซ้ำซาก และขณะเดียวกันมีลักษณะส่งเสริมสุขภาพ ไม่มี Calories มากนัก ลดน้ำตาลให้น้อยที่สุด ผมกินเนื้อ (Meat) และกินโปรตีนจากพวกถั่วในรูปแบบต่างๆ ทั้งถั่วเหลือง (Soy beans) ถั่วลิสง (Peanuts) และอื่นๆ หากหลีกเลี่ยงได้ ผมจะไม่กินอาหารอร่อยประเภทที่ต้องใส่ผงชูรส (MSG) หากพบที่ใดที่เขาทำอาหารอร่อยแบบใส่ผงชูรสมากๆ ผมจะหลีกเลี่ยงไม่ไปในครั้งต่อไป หากเป็นไปได้ ผมจะควบคุมอาหารมื้อเย็น (Dinner) กินบ้าง แต่กินไม่มาก และจะไปตามงานเลี้ยงไม่บ่อยครั้ง

ดังนั้นอาหารอร่อยของผมคือความหลากหลาย (Diversity) หลายครั้งที่ผมกิน (รับประทาน) อาหารมื้อละ 30-50 บาทตามโรงอาหารของสถาบันการศึกษา ก็ได้ความรู้สึกที่ดี กินอาหารมื้อละ 300-500 บาท เรียกว่า “กินนอกบ้าน” (Eat out) ก็ได้ความรู้สึกที่ดี และบางทีไปต่างประเทศ หรือในวาระพิเศษ กินอาหารมื้อละ 2,000-3,000 บาท (USD 60-100) ก็มี และมักกินเพื่อให้ได้เรียนรู้ว่า เขาทำกันอย่างไร อร่อยตรงไหน แต่มีหลายครั้งที่กินแล้ว หากมีโอกาสก็จะนำมาเขียนเล่าให้คนอื่นๆ ฟัง เพื่อเป็นความรู้ ผมเป็นคนกินได้ แต่ไม่มีทักษะด้านการทำอาหาร

ภาพ อาหารตามสั่งที่ภัตตาคารใน Venetian Macau, สถาน Casino ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อาหารราคาปานกลาง แต่ค่าเล่นการพนันคงจะแพง

ภาพ Yogurt ผสมผลไม้ ที่เขาใส่เพียงครึ่งเดียวของบรรจุภัณฑ์ที่เป็นพลาสติก ทำให้คนกินไม่ต้องกินมาก เปลือง หากอยากกินต่ออีก ก็ไปนำขวดใหม่มา

ภาพ อาหารแบบจีนประสมปอรตุเกส ใข้เส้นสปาร์เกตติ มีสีและรสชาดคล้ายกับ "ข้าวซอย" อาหารพื้นบ้านของชาวเหนือในประเทศไทย, ภาพจากร้านอาหารใน Venetian Macau,

ภาพ ก๋วยเตี๋ยวน้ำเส้นเล็ก สั่งที่ร้านอาหารในย่านพลุกพล่านมากของ Causal Bay, Hong Kong ราคาประมาณชามละ 200 บาทไทย แต่ร้านคนแน่นมาก นั่งแล้วจะรู้สึกว่า ต้องเบียดเสียดกันมากทีเดี่ย

ภาพ ข้าวกับ ผัดกะเพรา ไข่ดาว ที่ร้านอาหารที่ใกล้กับโรงแรมเพชรเกษม อำเภอเมืองสุรินทร์ อาหารจานนี้ คนไทยเรียกว่า "อาหารสิ้นคิด" คือคิดอะไรไม่ออก ก็สั่งจานนี้ โดยเฉพาะพวกทำงานตามออฟฟิส (Office Workers) เพราะสั่งง่าย ใครๆก็ทำเป็น ได้อาหารตามสั่งเร็ว

ในช่วงปีที่ผ่านมา ผมได้ไปเยือนที่ๆผมสะสมประทับตราใน Passport ของผมกับครอบครัว และผมถือเป็นวินัยในการใช้เงินให้ได้ประโยชน์ ผมจึงกลับมาเขียนเล่าให้คนฟัง ผมได้ไปเยือน หลายสิบเมืองในชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา (Northeast USA) ได้ไป Melbourne ประเทศออสเตรเลีย, ไปฮ่องกง (Hong Kong) ในช่วงปีใหม่กับครอบครัว เมื่อผมได้กลับมา หรือมีเวลาว่าง ก็จะเขียนเล่าให้คนฟังเกี่ยวกับสถานที่ๆผมได้ไปเยี่ยมเยียนมา โดยเขียนเป็นภาษาไทยที่ http://pracob.blogspot.com และหากเป็นภาษาอังกฤษ จะเขียนไว้ที่ http://eqi-eng.blogspot.com อาจารย์คงอ่านได้ทั้งสองภาษา

ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ผมจะไปร่วมประชุมกับเครือข่าย SpringBoard for Asia ที่กรุงพนมเปญ Phnom Penh ประเทศกัมพูชา (Cambodia), และจะไปเที่ยวย่าน Midwest ของสหรัฐอเมริกาที่ผมเคยไปศึกษา และไม่ได้กลับไปเยี่ยมเลย ผมคงจะมีเรื่องมาเขียนเล่าให้ฟังได้อีกมาก

ผมหวังว่าสักวันคงจะได้ไปเยือนเมืองสำคัญในประเทศอิสเรลในอีกไม่นานนี้ และคงพบกับอาจารย์ในงานศิลปะและการแสดงนานาชาติ ที่จะได้จัดให้มีขึ้นที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ในช่วงเดือนมกราคม พ.ศ. 2553 นี้

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
มูลนิธิก้าวไกลในเอเซีย
E-mail: pracob@sb4af.org

อ่านดูบทความสั้นของ Dr. Michael Stanner ที่ได้พบและบรรยาย “เหี้ยที่สวนลุมพินี” ได้ที่ http://eqi-eng.blogspot.com/2010/01/varanus-salvator-in-lumpini-park-in.html

No comments:

Post a Comment