Monday, June 24, 2013

สุภาษิตอาคาน - คนฉลาดเท่านั้น ที่จะแก้ปัญหาที่ยุ่งยากได้

สุภาษิตอาคาน - คนฉลาดเท่านั้น ที่จะแก้ปัญหาที่ยุ่งยากได้

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob.cooparat@gmail.com

Keywords: สุภาษิต, proverbs, แอฟริกัน, อัฟริกัน, African, แอฟริกา, อัฟริกา, Africa, การเมือง, politics, การปกครอง, governance, การบริหาร, management, ภาวะผู้นำ, ความเป็นผู้นำ, leadership, ประธานาธิบดี สหรัฐ, US presidents



ภาพ อับราฮัม ลินคอล์น (Abraham Lincoln) ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 16 นับเป็นผู้นำระดับสูงสุดเพียงไม่กี่คนที่ไม่ได้เรียนหรือมีการศึกษาระดับสูง แต่เป็นการเรียนรู้ด้วยตนเอง


Only a wise person can solve a difficult problem. ~ Akan proverb
คนฉลาดเท่านั้น ที่จะแก้ปัญหาที่ยุ่งยากได้ ~ สุภาษิตอาคาน

การตีความหมายของ “คนฉลาด” (Wise man) คือคนที่มี Wisdom ซึ่งหมายถึง “ความฉลาด” หรือ “ปัญญา”

ปัญญา (Wisdom) คือความเข้าใจและตระหนักรู้เกี่ยวกับคน สิ่งต่างๆ เหตุการณ์ หรือสถานการณ์ อันเป็นผลจากความสามารถในการใช้การรับรู้ การตัดสินใจ และการกระทำอย่างมีความเข้าใจ ปัญญา มักต้องใช้การควบคุมปฏิกิริยาตอบโต้ (Passions) ให้อยู่เหนือใช้อารมณ์ เพื่อให้สามารถใช้หลักการ เหตุผล และความรู้ยังประโยชน์ในการดำเนินการ (อ่านได้ที่ http://pracob.blogspot.com/2013/06/blog-post_19.html )

คนฉลาด ไม่ใช่เพียงฉลาดเรียนหนังสือ แต่ต้องฉลาดในการปฏิบัติ ฉลาดลงมือทำด้วย ไม่ใช่เพียงฉลาดทางสติปัญญา แต่ต้องฉลาดทางอารมณ์ และสังคม ไม่ใช่ฉลาดเพียงมีความสามารถแคบๆในสายวิชาการวิชาชีพของตนเอง ซึ่งเรียกว่า Disciplinary แต่ต้องมีความฉลาดอย่างรอบด้าน มีความรู้ในหลายๆศาสตร์อย่างเชื่อมโยงกัน เรียกว่า Inter-disciplinary มีความสามารถทางการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ตลอดจนสามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) และความสามารถหลากหลายในการแก้ปัญหาที่ตนเอง องค์กร หรือสังคมกำลังประสบ และสามารถทำให้เกิดความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องได้
แล้วจะไปหาคนฉลาดที่ดูเหมือนสูงส่งเช่นนี้ได้จากที่ไหน และอย่างไร

ในประวัติศาสตร์ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาจำนวน 44 คน ตั้งแต่ยุคก่อตั้งประเทศจนถึงปัจจุบัน การเลือกผู้นำของสหรัฐอเมริกา มักจะเลือกจากคนที่มีประวัติการเรียนหนังสือมาสูง มักผ่านงานการเมืองและการบริหาร เช่น เป็นวุฒิสมาชิก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร การเป็นผู้ว่าการรัฐ การเป็นนายกเทศมนตรีเมืองใหญ่ การเป็นนักการทหาร เป็นผู้นำทัพ ก่อนที่จะเสนอตนเองรับตำแหน่งเป็นประธานาธิบดี นั้นคือตำแหน่งผู้นำสูงสุด ต้องมีการเรียนรู้และไต่เต้า

สำหรับผู้ตาม หรือประชาชน เลือกเขามา เพราะผู้นำต้องแสดงตน แสดงในสิ่งที่เขาเลือกทางเดินและตัดสินใจ เลือกเพราะเขาอาสาสมัครมา เขากล้าที่จะออกมายืนข้างหน้าคนอื่นๆ กล้าแบกรับในสิ่งที่คนอื่นๆไม่กล้ารับผิดชอบ

ผู้นำของประเทศสหรัฐ มักได้แก่คนที่เรียนมาสูงในทางวิชาชีพและวิชาการ เช่น เป็นนักกฎหมาย ทนายความ ซึ่งต้องจบการศึกษาหลังปริญญาตรีทางวิชาชีพของเขา ผู้นำบางส่วน มาจากผู้นำทหารที่ต้องผ่านการคัดเลือก การฝึกและการเรียนอย่างเข้มข้นทั้งทางวิชาการ ร่างกาย และจิตใจ และกว่าจะมาเป็นผู้นำทหาร ก็ต้องผ่านโรงเรียนเสนาธิการทหาร ผ่านศึกสงคราม เป็นวีรบุรุษจากสงครามมาแล้ว

ผู้นำประเทศสหรัฐอเมริกา มักเรียนจากมหาวิทยาลัยที่ดีมีชื่อเสียง โดยเฉพาะจากมหาวิทยาลัยที่เรียกว่า Ivy league เป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่ ที่มีความเข้มงวดในการคัดเลือกผู้เรียนมาก ไม่ใช่ว่าจะเป็นลูกหลานของคนมีฐานะแล้วจะเข้าเรียนได้ ต้องเป็นคนเก่งด้วย อย่างน้อยในจุดเริ่มต้น คือเก่งเรียน

การสร้างทีมเสือในองค์กรธุรกิจ หากเขาเลือกนักบริหารจากการเป็น “มือหนึ่ง” ขององค์การอื่นๆที่ประสบความสำเร็จมาแล้วมาเป็นผู้นำองค์กรตน ก็คงต้องแย่งชิงกำลังคนกันอย่างมากมาย เพราะคนเก่งที่พิสูจน์ได้แล้วมีอยู่ในจำนวนจำกัด ดังนั้น เขาจะต้องเลือกจากคนเก่งที่แสดงศักยภาพ (Potentiality) ทั้งจากภายในและภายนอกองค์การ แม้ไม่ใช่จากคนที่ได้พิสูจน์ตนเองด้วยผลงานดีเลิศที่สุด ในองค์กรที่ใหญ่ที่สุดมาแล้ว เขาจะเลือกคนฉลาดหรือคนมีแวว เป็นคนเก่งระดับสอง หรือระดับรองลงมา เขายังไม่ได้พิสูจน์ความสามารถขั้นสูงสุด เพราะยังไม่มีโอกาส แต่เขามีแววที่จะก้าวสู่ความเป็นเลิศนั้นได้

ผู้นำที่ดี ต้องมีกระบวนการสร้าง ไม่ใช่เพียงไปหาคนที่ประสบความสำเร็จมาแล้วมาทำงาน แต่ต้องหาคนที่มีศักยภาพ (Potentiality) แล้วต้องใช้กระบวนการพัฒนาเขา เสริมในส่วนที่เขาขาด ลองสังเกตทีมกีฬาที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จอันยาวนาน เช่น ทีมฟุตบอลอย่าง Manchester United ของอังกฤษทีมบาสเกตบอล Boston Celtics ที่เป็นตำนานของ NBA, ทีมอเมริกันฟุตบอลในลีค NFL ดังทีม Pittsburg Steelers คือการเลือกคนที่มีศักยภาพที่จะเล่นได้ดี เขาเรียกว่า Rookies แล้วใช้เวลาแล้วค่อยๆสร้างสู่ความเป็นนักกีฬาขั้นสุดยอด หรือ Super stars ไม่มีใครสมบูรณ์แบบมาแล้วก่อนเข้าสู่ทีม

ในองค์กรยุคใหม่ที่จะก้าวหน้ายิ่งใหญ่ ก็ต้องมีกิจกรรมพัฒนาคนทำงานที่เรียกว่า Job coaching หรือ การสร้างทีมงาน (Team development) เมื่อสร้างทีมงานที่ดีเพื่อรองรับคนทำงานที่ดี แล้วแต่ละคนก็จะเรียนรู้จากกระบวนการทำงานเป็นทีมนั้น นอกจากนี้ก็คือการปรับโครงสร้างขององค์การ (Restructuring) ทำให้เกิดโอกาสำหรับคนทำงานใหม่ๆ ได้ก้าวหน้า ทำงานได้อย่างอิสระ คล่องตัว ได้ใช้ศักยภาพในการทำงานได้อย่างเต็มที่ ไต่เต้าจากงานขนาดเล็ก ไปสู่ความรับผิดชอบที่มากขึ้น

ในประเทศไทย การเลือกคนมาบริหารประเทศ การได้คนที่เรียนหนังสือมาดี มีการศึกษาอย่างรอบด้าน ไม่ใช่เพียงเก่งแต่หาเสียง หรือขึ้นเวทีแล้วพูดได้ดี เพราะการพูดเป็นเพียงความเก่งด้านเดียว ไม่ใช่เลือกเขา เพราะเขาเป็นลูกหลานคหบดีผู้มีฐานะหรือิทธิพลในจังหวัดนั้นๆ แต่เพราะการมองเห็นศักยภาพของคนๆนั้น เช่น เขามีความจริงจังในการทำงาน เกาะติดกับปัญหาของชาวบ้านและชุมชน หรือเขากล้าที่จะแสดงความคิดเห็นที่ดีๆ มีวิสัยทัศน์ แม้จะแผกต่างจากคนรุ่นก่อนๆ หรือได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ แต่เขาพร้อมที่จะแสดงแนวคิด และพิสูจน์ในแนวทางของเขา

การจะได้คนที่จะมานำประเทศ อาจต้องให้มีคนที่มาจากภาคธุรกิจบ้าง โดยเลือกจากคนที่ประสบความสำเร็จในแวดวงธุรกิจ บริหารงานเป็น ตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล มีความฉลาดในการจัดการ อาจพิสูจน์ตนเองในการบริหารการเมือง จากระดับเล็กขึ้นมาสู่การบริหารในระดับใหญ่ บริหารจังหวัด หรือเมืองระดับประชากรหลายแสนคนมาแล้วอย่างมีประสิทธิผล แต่นั่นรวมถึงกระบวนการเรียนรู้การเมือง หลักรัฐศาสตร์ และหลักธรรมาภิบาล (Good governance)

อย่าเลือกคนมานำ เพียงเพราะวงศ์ตระกูล ไม่ใช่สุภาษิต “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น” จะจริงเสมอไป ต้องเลือกคนฉลาดและเก่งด้วยตัวเขาเอง คนที่มีเชื้อสายมาดี แต่ไม่ฉลาดและเก่งเท่าพ่อแม่ก็มีอยู่มากมาย และที่สำคัญลูกคนประสบความสำเร็จมากๆในชีวิต เขาอาจไม่ได้รับการเลี้ยงดูมาดีเหมือนคนรุ่นพ่อแม่ของเขา เขาอาจมีจุดอ่อนด้วยซ้ำ เพราะอาจถูกเลี้ยงมาอย่างเป็น “ลูกแหง่” เป็น “คุณชาย” ที่ทำงานหนักไม่เป็น พรรคการเมืองที่ดีก็เช่นเดียวกัน ต้องเป็นพรรคการเมืองที่เปิดช่องให้กับคนเก่งที่พร้อมพิสูจน์ตนเอง แม้ไม่ใช่เลือกคนมั่งมี ไม่ใช่เพียงเลือกคนมีเส้นสาย หรือเป็นคนที่มีผู้ใหญ่คอยอุ้ม การเลือกผู้นำที่ดี เราต้องได้ “ดาวฤกษ์” ไม่ใช่ดาวเคราะห์ หรือดวงจันทร์ ที่รับเพียงแสงสะท้อนจากแหล่งแสงอื่นๆ

No comments:

Post a Comment