Sunday, October 31, 2010

บทเรียนที่ 4 เครื่องมือในการศึกษาและนำเสนอ

บทเรียนที่ 4 เครื่องมือในการศึกษาและนำเสนอ

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

Updated: Sunday, October 31, 2010

Keywords: cw154, บทเรียนที่ 4, การเรียนการสอน, ICT,

ความนำ

การเรียนรู้จำเป็นต้องมีการค้นคว้า และต้องมีเครื่องมือในการเรียน และต่อไปนี้คือเครื่องมือที่จะแนะนำสำหรับผู้เรียน สิ่งที่ผู้สอนเน้นมีอยู่ดังต่อไปนี้

- ความรู้ความสามารถด้านภาษาอังกฤษ

- การใช้ Dictionary Online

- การใช้ Encyclopedia Online

- การใช้ระบบสืบค้นอย่าง Google

- CIA World Factbook

- ฐานข้อมูลแบบ Offline

- การนำเสนอในชั้นเรียน

- การใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยได้ และ

- กรณีทางการศึกษา

ความรู้ความสามารถด้านภาษาอังกฤษ

เนื้อหาสาระเป็นอันมากในโลกยุคใหม่เป็นภาษาอังกฤษ และภาษาในกลุ่มประเทศตะวันตก

การจัดทำเอกสารเพื่อการเรียนการสอนในวิชานี้ เป็นทั้งในระบบกระดาษหรือสิ่งพิมพ์ และการนำเสนอในระบบออนไลน์ ผู้สอนได้เลือกใช้ภาษาไทย ร่วมไปกับภาษาอังกฤษ จัดว่าเป็นแบบ Bilingual

ด้วยการใช้ภาษาไทยเป็นหลัก เพื่อเป็นการได้เริ่มและกระตุ้นสำหรับผู้ที่ยังไม่มีทักษะภาษาอังกฤษอย่างเพียงพอ จะได้เริ่มศึกษาได้บ้าง แต่อีกส่วนหนึ่งคือ การใช้เอกสารภาษาอังกฤษ แบบที่ Download ลงมา และไม่ได้มีการแปลหรือย่อยความออกมาเป็นภาษาไทย เพราะการต้องมาแปลความนั้นไม่สามารถกระทำได้ทั้งหมด ผู้เรียนแต่ละคนจะมีขีดความสามารถในการศึกษาเป็นภาษาอังกฤษอยู่บ้าง อาจจะกระทำได้เร็วบ้าง ช้าบ้าง แต่ก็กระทำได้เมื่อมีเวลา และมีความพยายาม


ภาษาอังกฤษ จัดเป็นภาษาที่สำคัญในการศึกษาระดับสูง กล่าวคือ

No.

ประเทศ

ฐานข้อมูล

จำนวนบทความ

ร้อยละ

1.

อังกฤษ

English articles

1,079,000

37.46

2.

เยอรมัน

DeutschDie freie Enzyklopädie Artikel

384,000

13.33

3.

ฝรั่งเศส

FrançaisL’encyclopédie libre articles

270,000

9.37

4.

โปแลนด์

Polski Wolna Encyklopedia haseł

228,000

7.92

5.

ญี่ปุ่น

日本語フリー百科事典記事

201,000

6.98

6.

เนเธอร์แลนด์

Nederlands De vrije encyclopedie artikelen

170,000

5.90

7.

สโลวีเนีย

Svenska Den fria encyklopedin artiklar

152,000

5.28

8.

อิตาลี

Italiano L’enciclopedia libera articoli

151,000

5.24

9.

ปอร์ตูเกส

Português A enciclopédia livre artigos

126,000

4.37

10.

สเปน

Español La enciclopedia libre artículos

109,000

3.78

11.

ไทย

สารานุกรมเสรีไทยที่ทุกคนร่วมสร้างได้

10,594

0.37

รวมทั้งสิ้น

2,880,594

100.00

หากนับคนไทยที่พูดและเขียนภาษาไทยในโลกเรามีอยู่ 63-64 ล้านคนจากประชากรโลกที่ 6300 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 1 ของประชากรโลก หรือมีคนในโลกที่ใช้ภาษาไทยได้ร้อยละ 1 ของประชากรโลก

จากเอกสารที่มีเผยแพร่ใน Wikipedia ซึ่งเป็นสารานุกรมออนไลน์ที่ฟรีในระบบร่วมกันทำแบบเป็นเครื่อข่าย มีเอกสารที่จัดทำขึ้น อยู่ทั้งสิ้นเกือบ 3 ล้านรายการ ณ เมษายน พ.ศ. 2549 มีเอกสารที่เป็นภาษาอังกฤษมากที่สุดที่ 1.07 ล้านรายการหรือร้อยละ 37.46 และตามมาด้วยภาษาอื่นๆ ในตระกูลยุโรปเป็นส่วนใหญ่ และประเทศไทยมีข้อมูลองค์ความรู่ในสารานุกรมดังกล่าวที่ 10,594 รายการ คิดเป็นร้อยละ .37 ของงานทั้งหมด และงานเป็นอันมากยังเป็นระดับเริ่มต้นที่ไม่มีความสมบูรณ์ในเนื้อหา

ความรู้ความสามารถด้านภาษาอังกฤษ จึงเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ที่สำคัญ นอกเหนือไปจากการมีข้อมูลในภาษาไทย ซึ่งมีอยู่อย่างจำกัด เมื่อเทียบกับสิ่งที่มีอยู่ในโลก

ภาษาไทยมีเพียงร้อยละ 1 ของในโลก หากผู้เรียนในระดับปริญญาขั้นสูงพึ่งภาษาไทยในการเล่าเรียนเป็นหลัก ก็จะมีข้อจำกัด ความรู้ที่ต้องการให้มีคนย่อย มีคนแปลมาก่อนแล้วเราจึงศึกษาจากสิ่งเหล่านั้น เรียกว่า Secondary Sources นั้นจะไม่พอ เราต้องเน้นไปที่การได้ Primary Sources หรือการได้ข้อมูลจากแหล่งที่ตรงที่สุด และเร็วที่สุด คนที่ได้ฝึกฝนภาษาอังกฤามาดีพอสมควรจะมีขอบเขตที่จะศึกษาได้อย่างขวางมากยิ่งขึ้น

อินเตอร์เน็ตเป็นระบบสื่อสารที่มีการใช้กันกว้างขวางในโลก แต่จะเป็นประโยชน์ที่สุดเมื่อมีความรู้ด้านภาษาอังกฤษเพียงพอที่จะทำความเข้าใจในเนื้อหาสาระอันมากมายผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต

การใช้ Keywords เพื่อการค้นคว้า

การศึกษาต้องใช้สื่อสองทาง (Two Way Communications) นั้นคือไม่ใช่อ่านอย่างเดียว แต่จะต้องนำไปสู่การเขียนด้วย และการเขียนในยุคใหม่นั้น เราต้องใช้โปรแกรมประมวลคำและอื่นๆ ด้วยตนเองให้ได้มากที่สุด การใช้คอมพิวเตอร์อย่างต้องเรียนรู้การใช้ Keyboards อย่างถูกต้องจะเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารด้วยการเขียน การนำเสนองานต่างๆ ได้อย่างมาก จึงเป็นทักษะที่ต้องการจะส่งเสริมเป็นพิเศษ

การใช้ Keywords ในภาษาอังกฤษ Keywords คือคำหลัก ในการสืบค้น เราจำเป็นต้องรู้คำหลัก เป็นคำที่เขาใช้กันในวงการด้านนั้นๆ ต้องสะกดให้ถูก เพราะถ้าสะกดผิด โอกาสที่จะหาเอกสารพบจะน้อยลงไป หรือเครื่องไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเราต้องการค้นคว้าเรื่องอะไร

เรามีเนื้อหาที่อยู่ในระบบเครือข่ายที่เป็นภาษาไทยอย่างจำกัด สังคมไทยยังไม่ใช่สังคมแห่งการเรียนรู้ เรายังมีเนื้อหาที่จะเลือกใช้ได้อย่างเสรีนั้นไม่มากนัก

เน้นอีกครั้งในความจำเป็นของการใช้ภาษาอังกฤษในการค้นคว้า และด้วย Keywords ภาษาอังกฤษ

ความรู้ความสามารถในภาษาอังกฤษนับเป็นหัวใจในการเรียนรู้แบบพึ่งตนเอง และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้เนื้อหาสาระและองค์ความรู้ที่มีการนำเสนออยู่มากพอสมควรแล้วในระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ด้วยเหตุดังกล่าว ผู้เรียนจึงควรต้องพัฒนาขีดความสามารถด้านภาษา โดยเฉพาะภาษาอังกฤษให้ได้อย่างจริงจัง

การใช้ Dictionary Online

การใช้คำที่ถูกต้องเมื่อต้องสืบค้นหาความหมายของคำในระบบพจนานุกรมออนไลน์

- LEXiTRON Thai <- -> English Dictionary
พบกับรูปแบบใหม่ในการแปลคำศัพท์ ท่านสามารถแปลคำศัพท์ในหน้าเว็บเพจ ...
lexitron.nectec.or.th/ - 22k -

- Dictionary.com
Free online English dictionary, thesaurus and reference guide, crossword puzzles and other word games, online translator and Word of the Day.
www.dictionary.com/ - 15k –

- Merriam-Webster Online
Merriam-Webster provides a free online dictionary, thesaurus, audio pronunciations, Word of the Day, word games, and other English language resources.
www.m-w.com/ - 22k –

- Webopedia: Online Computer Dictionary for Computer and Internet ...
An online computer dictionary and internet search engine for internet terms and technical support.
www.webopedia.com/ - 41k

นอกจากนี้ ผู้เรียนยังสามารถใช้พจนานุกรมที่มีขายเป็น CD-ROM เพื่อช่วยในการศึกษาเล่าเรียนได้อีก ซึ่งพจนานุกรมที่เป็นแบบไทยอังกฤษ ราคาไม่แพง อยู่ที่ 150-200 บาท เพื่อเป็นการอุดหนุนคนไทย มีผลิตกันหลายคน และโดยหลายสำนักผู้ผลิต

การใช้ Encyclopedia Online

ประโยชน์ของสารานุกรม

สารานุกรม (Encyclopeida) ทำหน้าที่ในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับสรรพสิ่งเป็นขั้นเบื้องต้น ย่นระยะเวลาที่เราต้องไปทำการศึกษาเองอย่างเป็นระบบ

สัญญลักษณ์ของ Wikipedia
มีเอกสารที่เป็นภาษาอังกฤษอยู่กว่า 994000 รายการ

Wikipediaสารานุกรมในระบบหลายภาษาและเป็นเครือข่ายผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน
The biggest multilingual open access encyclopedia on the internet. Over 500000
articles and still growing.
www.wikipedia.org/ - 29k –

Encyclopedia.com - Because knowledge is cool.มีเนื้อหาที่ได้มีการค้นคว้าโดยผู้รู้อย่างเป็นระบบ
Free resource offers more than 50000 concise articles.
www.encyclopedia.com/ - 25k –

Encyclopaedia Britannica Onlineเจตนาเป็นสารานุกรมเชิงพาณิชย์
Encyclopedia Britannica Online, featuring the complete Encyclopedia Britannica, Britannica Concise Encyclopedia, Merriam-Webster's Dictionary & Thesaurus, ...
www.britannica.com/ - 39k –

MSN Encarta : Online Encyclopedia, Dictionary, Atlas, and Homeworkพัฒนาโดยบริษัทไมโครซอฟต์
Online home of the Encarta encyclopedia, world atlas, dictionary, thesaurus, multimedia collection, and homework tools.
encarta.msn.com/ - 42k –

Webopedia พจนานุกรม และสารานุกรมศัพท์ทางด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ
Webopedia: Online Computer Dictionary for Computer and Internet ...
An online computer dictionary and internet search engine for internet terms and
technical support.
www.webopedia.com/ - 41k -

การได้เริ่มต้นทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องใด โดยอาศัยสารานุกรมนั้น นับเป็นการย่นเวลาที่จะต้องไปศึกษาแต่ละเรื่องด้วยตนเอง และเมื่อมีความเข้าใจที่ถูกต้องเป็นพื้นฐานแล้วจึงนำไปสู่การค้นคว้าในแนวลึก ในวงกว้าง

การใช้ระบบสืบค้นอย่าง Google

ระบบสืบค้นข้อมูลที่มีใช้แพร่หลายทั่วโลก ใช้ได้ในหลายภาษา สืบค้นได้ด้วยความรวดเร็ว

คำว่า google มีความหมายว่า เมื่อมีเลข 1 อยู่ 1 ตัวแล้วเอาเลข 0 มาวางต่อไปอีก 100 ตัว คือมีความหมายว่ามากมายมหาศาล โดยจุดกำเนิดของ google อยู่ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University) ในปี 1995 โดย Sergey Brin (เซอร์กี บริน) 1 ใน 2 ของผู้ก่อตั้ง กูเกิ้ล เป็นแค่นักเรียนปริญญาเอก ที่กำลังจะขึ้นปี 2 ของภาควิชา วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ (Computer Science) และLarry Page (ลาร์รี่ เพจ) ที่เพิ่งได้ดีกรี วิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (Michigan University) มาหยกๆ และได้เข้าศึกษาต่อปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University) และเลือกที่จะทำวิทยานิพนธ์ เรื่อง World Wide Web นี่เอง

และแล้วจุดเริ่มต้นของไอเดียเล็กๆ ก็กลายเป็นไอเดียที่เปลี่ยนโลกอินเตอร์เน็ตทั้งใบ จุดกำเนิดของยักษ์ใหญ่ในวงการซอฟท์แวร์อีกคน ก็เริ่มขึ้นที่นี่

_________________
นางสาวสุกัญญา แช่มช้อย
schaemchoy@yahoo.com
นิสิตดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา
คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

หลังจากการสืบค้นด้วย Encyclopedia แล้ว สิ่งที่สามารถทำต่อไปได้คือการค้นด้วย Google ซึ่งเป็นระบบสืบค้นที่สามารถใช้ได้หลายภาษา บางคนมีความสามารถด้านภาษาฝรั่งเศสและเยอรมัน ก็ให้สามารถใช้การสืบค้นเพื่อหาข้อมูลและเนื้อหาสาระได้

การใช้ระบบ GPS อย่าง Google Earth

Google Earch คือการใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Global Positioning System เพื่อการศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับสภาพภูมิศาสตร์ของประเทศและเมืองต่างๆ ทั่วโลก

GPS นี้ทำให้สิ่งที่เป็นนามธรรม ให้กลายเป็นรูปธรรม สามารถมองเห็นและจับต้องทำความเข้าใจได้มากขึ้น

Google Earth –Explore, Search and Discover

Want to know more about a specific location? Dive right in -- Google Earth combines satellite imagery, maps and the power of Google Search to put the world's geographic information at your fingertips.

Coors Field

Rome

Earth

schools

Bahamas

ภาพ มองภาพจากอวกาศจนถึงในหมู่บ้านของเรา Fly from space to your neighborhood. Type in an address and zoom right in.

ค้นหาโรงเรียน สวนสาธารณะ ร้านอาหาร โรงแรม Search for schools, parks, restaurants, and hotels. Get driving directions.

การปรับภาพให้ตรงกับความเป็นเหนือใต้ การมองตึกในแบบ 3 มิติ Tilt and rotate the view to see 3D terrain and buildings.

การสามารถ Save เพื่อไปนำเสนอในรูปอื่นๆ ได้ Save and share your searches and favorites. Even add your own annotations.

CIA World Factbook

หากต้องการรู้เกี่ยวกับโลก และประเทศต่างๆ ในโลกอย่างเป็นระบบ ควรเริ่มต้นที่ CIA Factbook ซึ่งมีการสะสมและจัดทำฐานข้อมูลประเทศต่างๆ ทั่วโลกไว้อย่างเป็นระบบ ง่ายต่อการศึกษาเชิงเปรียบเทียบ

CIA หรือ Central Intelligence Agency คือหน่วยงานสืบราชการลับของสหรัฐ ระบบข้อมูลใน CIA World Factbook เป็นข้อมูลดิบที่เตรียมไว้อย่างเป็นระบบมีการปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ เนื่องจากหน่วยงาน CIA มีหน้าที่เตรียมข้อมูลในเชิงลึกให้กับฝ่ายบริหารของประเทศ จึงได้ใช้ประโยชน์จากกำลังคนที่มีกระจายอยู่ทั่วโลก และได้พัฒนาระบบข้อมูลประเทศต่างๆ ในแต่ละด้าน

กิจกรรมสืบราชการลับ หรือข่าวกรองมีดังนี้

ข้อมูล information is acquired,

ข่าวกรอง - converted into intelligence, and

การนำไปสู่ฝ่ายตัดสินใจ - made available to policymakers.

(1) Information is raw data from any source, data that may be fragmentary, contradictory, unreliable, ambiguous, deceptive, or wrong. (2) Intelligence is information that has been collected, integrated, evaluated, analyzed, and interpreted. (3) Finished intelligence is the final product of the Intelligence Cycle ready to be delivered to the policymaker.

ในฐานะนักการศึกษา ข้อมูลจาก CIA เป็นระบบข้อมูลที่เป็นกลาง อย่างที่เขาเรียกว่า Factbook เป็นข้อมูลเปิดเผยได้ และมีระบบจัดเตรียมข้อมูลมาอย่างดี สามารถใช้ประโยชน์เพื่อการอ้างอิงได้ แม้ดูจะขัดเขินที่จะต้องใช้ชื่อ CIA ซึ่งเป็นหน่วยงานข่าวกรอง หน่วยงานสืบราชการลับของสหรัฐอเมริกา

ฐานข้อมูลแบบ Offline

ในบางที่สำหรับบางคนอาจอยู่ในจุดที่ยากจะมี Internet ใช้ได้ตลอดเวลา

จำเป็นต้องใช้วิธีการเรียนที่เรียกว่า Offline แต่ยังใช้เครื่องคอมพิวเตอร์อยู่

ปัจจุบันเครื่องคอมพิวเตอร์มีหน่วยความจำหลักที่เรียกว่า Harddisk ถึงขนาดหลายพันล้านไบท์ (Gigabytes - GB) ในเครื่องที่เป็น Laptop สามารถมีหน่วยความจำที่ 40-80 GB ถือได้ว่าเป็นมาตรฐาน

คนที่ต้องทำงานอยู่ในบริเวณที่ไม่สะดวกในการศึกษาเล่าเรียน อยู่ในที่ธุรกันดาลมาก ทำให้โครงการพิเศษ ดังนี้ก็ต้องใช้ระบบ Laptop นี้จะเป็นประโยชน์ เวลาเข้าเมืองก็ไปใช้บริการตาม cyber cafe ค้นคว้าและเก็บข้อมูลเอาไว้ศึกษา เหมือนกับไปยืมหนังสือมาอ่าน เวลากลับเข้าที่ตั้งที่อาจจะยากลำบากในการเรียนก็ใช้เครื่องพีซี หรือ Laptop เพื่อการศึกษาในแบบ Offline

เป็นการเรียนแบบใช้ประสมประสานกันไป

โปรแกรมสำนักงานขั้นพื้นฐาน

การเรียนคณิตศาสตร์ - เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการใช้ MS Excel

การจัดทำฐานข้อมูลงานค้นคว้าด้วย MS Access

Software ที่สามารถใช้ได้

SketchPad – การเรียนด้านคณิตศาสตร์

ภาพ The Geometer's Sketchpad

With the Geometer's Sketchpad, you can construct figures from simple textbook diagrams to working models of the Pythagorean Theorem, perspective drawings, tessellations, fractals, animated sine waves, etc. This program will let you experiment with complex geometrical constructions.

Sketchpad was a revolutionary computer program written by Ivan Sutherland in 1963 in the course of his PhD thesis. It helped change the way people interact with computers. Sketchpad is considered to be the ancestor of modern computer-aided drafting (CAD) programs as well as a major breakthrough in the development of computer graphics in general. Ivan Sutherland demonstrated with it that computer graphics could be utilized for both artistic and technical purposes in addition to showing a novel method of human-computer interaction.

การเรียนโดยใช้ CD-ROM

Dictionary และการอ่านออกเสียง

MS Encarta ระบบห้องสมุดใน CD-ROM

ภาพ MS Encarta โดย Microsoft

ในการเรียนรู้ส่วนหนึ่งสามารถค้นหาข้อมูลได้ด้วยการใช้การสืบค้นผ่านอินเตอร์เน็ต แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก็สามารถใช้ระบบฐานข้อมูลที่ต้องจัดซื้อจัดหา เช่นการใช้ Encyclopedia ที่ได้จัดทำในรูปของ CD-ROM แล้วอย่าง MS Encarta ซึ่งจะมีการ Update อยู่เป็นระยะ ในบางสถานที่ และบางโอกาส หากต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์แบบ Offline นั้น CD-ROM เหล่านี้ก็จเป็นประโยชน์

การเรียนภาษาอังกฤษ

ภาพ Rosetta Stone ชุดการเรียนภาษาอังกฤษ

เมื่อต้องการเรียนรู้ภาษาอังกฤษแบบฝึกหัดเองได้ที่บ้านนั้นมีหลายวิธีการที่จะศึกษาได้ด้วยตนเอง โดยใช้ CD-ROM ชุดการเรียนเป็นเครื่องช่วย

ข้อสังเกต

จากการได้ติดตามพฤติกรรมผู้เรียนในระดับบัณฑิตศึกษาในสายศึกษาศาสตร์ พบว่ามีปัญหาด้านทักษะภาษาอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้โดยสังเกตุจากผลการทดสอบความสามารถด้านภาษาอังกฤษในระดับเป็นภาษาที่สอง อย่าง TOEFL หรือ CU-TEP โดยเปรียบเทียบคะแนนที่น่าพอใจสำหรับทักษะที่ 500 คะแนนขึ้นไปนั้น พบว่าร้อยละ 70-80 ไม่สามารถผ่านในคะแนนดังกล่าวได้

จึงมีความเห็นว่าในการศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษานั้น ควรตัองมีระบบการเรียนเสริม ซึ่งอาจเรียกว่า Student Capacity Enhancement โดยควรมีการวิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็งกันเป็นรายบุคคล และอาจต้องเริ่มต้นจากพื้นฐานด้าน Grammar, การอ่านออกเสียง (Pronunciation), ทักษะการอ่าน (Reading Comprehension)

ใช้คอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์

มีเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่ 1 เครื่องสามารถใช้ประโยชน์เพื่อการศึกษาได้อย่างกว้างขวางมากมาย

ถ้าเป็นระบบ Laptop ยิ่งจะเป็นประโยชน์ เพราะจะช่วยให้เรามีความคล่องตัวในการทำงาน การศึกษา ไม่ว่าจะย้ายไปในที่ต่างๆ มากน้อยเพียงใด คอมพิวเตอร์ก็ยังสามารถพกพาติดตัวไปได้ ขอแต่เพียง ณ ที่นั้นๆ มีไฟฟ้าที่พอจะ Charge ไฟฟ้าเข้า Battery ได้เป็นครั้งคราวไป

การนำเสนอในชั้นเรียน

การนำเสนองานที่ค้นคว้าในชั้นเรียน

ขนาดผู้เรียนที่ไม่ใหญ่เกินไปนัก เช่น 10-15 คน สามารถใช้เวลาในชั้นเรียนเพื่อการนำเสนอและแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ต่อกันได้ ผู้เรียนแต่ละคนต้องไม่มุ่งแต่งานและความรับผิดชอบของตน

การฝึกตนให้เป็นผู้มีความรู้กว้างขวาง คือการที่จะได้มีโอกาสซักถาม นำเสนอเพิ่มเติมในประเด็นที่เราอาจมีความรู้

การใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยได้

การเขียนขยายความและนำเสนอผ่านเครือข่าย

www.itie.org/eqi/ การมี Dynamic Homepage ดังเช่น Website การพัฒนาคุณภาพการศึกษา (Education Quality Improvement – EQI) นับเป็นเครื่องมือการนำเสนองาน และแลกเปลี่ยนงานอย่างง่าย

การนำเสนอในชั้นเรียนด้วย Software อย่าง MS PowerPoint ซึ่งสามารถทำให้ภาพ เสียง และงานที่มากกว่าตัวอักษรได้ถูกนำเสนอและสร้าง Visual Effects เพื่อการเรียนรู้ที่ดียิ่งขึ้น

ในการศึกษาที่ต้องมีตัวเลขและการเงินเกี่ยวข้อง ผู้เรียนควรศึกษาวิธีการใช้ MS Excel เพื่อการคำนวณด้านการเงินและตัวเลขต่างๆ และพร้อมกันนั้นสามารถใช้การนำเสนอเป็นกราฟิกได้ด้วย

กรณีทางการศึกษา

ความหมาย

กรณีศึกษา (Case Studies) คือการเลือกศึกษาสรรพสิ่งจากแต่ละเรื่อง แต่ละแห่งเป็นกรณีๆ ไป ความสำเร็จและความล้มเหลวไม่สามารถใช้ได้อย่างกว้างขวางทั่วไป

ในทางการศึกษามีกรณีที่เป็นประเด็น และเราสามารถใช้ความรู้ด้านการวิเคราะห์ระบบปฏิบัติการ เพื่อการปรับปรุงการทำงาน และเพื่อพัฒนานโยบายทางการศึกษาในประเด็นต่อไปนี้

อื่นๆ ที่จะนำเสนอหัวเรื่องได้ภายในสัปดาห์ที่ 2-3 ของการเรียน

กรณีศึกษา ไม่มีประสบการณ์ในโลกยุคใหม่ที่มีสูตรสำเร็จในการแก้ปัญหา

ต้องมีการศึกษาเป็นกรณีๆ ไป

การศึกษาทำความเข้าใจ ไม่ใช่ไปประเมินเสียแต่แรก

สมมุติให้ท่านเป็นที่ปรึกษา

สมมติว่าต้องไปรับงานการบริหาร และต้องมีการริเริ่มเพื่อการเปลี่ยนแปลง

เรื่องแปลความเป็นมาของ Mondragon จาก
Wikipedia โดยบาทหลวง สมจิตร พึ่งหรรษพร

Mondragon เป็นเมืองและเทศบาลเมืองในจังหวัด Gipuzkoa , basque country .Spain มีประชากรประมาณ 25000 คน เป็นที่รู้กันว่าเป็นสถานที่กำเนิดของ Mondragon Cooperative Corporation(MCC) สมาคมคนงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งตั้งขึ้นในปี 1940 โดยบาทหลวง Jose Maria Arizmendiarrieta ในปี 2002 MCC ได้ช่วยเหลือ 3.7% ให้กับยอด GDP ของ Basque Country และ 7.6% กับหุ้น GDPอุตสาหกรรม ในช่องหุบเขาสูงเมือง Deba(เมืองในทางเหนือของ Spain) เป็นสถานที่ได้รับประโยชน์ระดับสูงมากของการว่าจ้างในปี 1980 ขณะที่คนอื่น ๆ ในพื้นที่ของเมือง Basque ต้องเดือดร้อนทนทุกข์จากวิกฤตเหล็กกล้า

การก่อตั้ง Mondragon Cooperative Corporation(MCC)

บริษัทได้ก่อตั้งใน Arrasate เมืองหนึ่งใน Gipuzkoa (เมืองในทางเหนือของ Spain) เป็นที่รู้จักกันในนามว่า Mondragon ประเทศสเปน เป็นเมืองที่ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างเลวร้ายในสงครามกลางเมืองของสเปน (Spanish Civil War) และไม่มีการว่าจ้างให้ทำงาน บาทหลวงหนุ่ม คุณพ่อ Jose Maria Arizmendiarrieta ได้มาถึงเมืองนี้ในปี 1941 ได้ตัดสินใจที่จะมุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจของเมือง ได้ตกลงหาวิธีให้คนงานได้บรรลุความสำเร็จตามเป้าหมาย ร่วมมือกับคนงานและตั้งองค์กรช่วยพวกเขาเองจนได้เป็นธรรมเนียมปฏิบัติในเมือง Basque ซึ่งเหมือนกับว่าได้ตายไปหลังภาวะสงคราม
ในปี 1943 คุณพ่อ Arizmendi ได้ก่อตั้งโรงเรียนโปลีเทคนิคบริหารจัดการแบบประชาธิปไตย โรงเรียนมีบทบาทหลักในเรื่องฉุกเฉินและพัฒนาขบวนการความร่วมมือคนงาน ในปี 1956 ผู้รับวุฒิบัตรหนุ่ม 5 คนของโรงเรียนได้ก่อตั้งอุตสาหกิจแห่งแรกของความร่วมมือคนงาน ชื่อ ULGOR เป็นชื่อสกุลของเขา ซึ่งระหว่างช่วงแรก เป็นการประดิษฐ์เครื่องทำความร้อนและเครื่องปรุงอาหาร โดยใช้น้ำมันเป็นพื้นฐาน ในปี 1959 พวกเขาก่อตั้ง Caja Laboral Popular (ธนาคารของคนทำงาน) เป็นเครดิตยูเนี่ยน(credit union) ซึ่งอนุญาตให้สมาชิกคนงานกู้ยืมเงิน และต่อมาภายหลังได้เริ่มกองทุนสำหรับการเสี่ยงลงทุนของความร่วมมือคนงานใหม่ ๆ บริษัทความร่วมมือคนงานใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นในปีถัดมา รวมทั้ง Fagor Electronica, Fagor Ederlan และ Danobat มันได้ขยายออกไปโดยการเชิญให้ความร่วมมือคนงานกลุ่มอื่น ๆ โดยเสนอความช่วยเหลือแก่บริษัทที่ล้มเหลวโดยมีเงื่อนไขของความร่วมมือคนงานที่ปฏิบัติงานเป็นหลัก

กลุ่มบริษัทที่ปฏิบัติงานเหมือนกับ keiretsu (กลุ่มบริษัท) โดยมีการปฏิบัติเหมือนเพื่อนร่วมงาน การบริการการเงินของคนงานที่ร่วมมือกันผ่านธนาคารคนงาน ดูแลเรื่องการประกันสุขภาพ และกองทุนบำนาญ ที่ Lagun Aro และมีส่วนลดที่ตลาด Eroski และเครื่องใช้ที่ Fagor Eroski store เป็นที่คนงานมาแลกเปลี่ยนสินค้ากันเอง พวกเขามีการเรียนรู้ที่ กลุ่ม ikastola และขยายการเรียนรู้ไปที่มหาวิทยาลัย Mondragoon ซึ่งมีเวทีสำหรับความร่วมมือคนงาน

เมื่อบริษัทความร่วมมือคนงานมีปัญหาทางการเงิน คนงานชอบมากกว่าที่จะให้จ่ายค่าจ้างออกจากงาน ถ้าสถานการณ์เลวร้ายมาก คนงานจำนวนมากก็สามารถมองหางานในกลุ่มบริษัทความร่วมมือคนงานอื่น ๆ

________________


บาทหลวงสมจิตร พึ่งหรรษพร
E- mail:somchit@dbac.ac.th
314/8 ม.5 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี 20000
โทรฯ 081 335 1627
นิสิตดุษฎีบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

กิจกรรม

โปรดสำรวจความสามารถในการศึกษาขั้นพื้นฐานของท่านว่าเป็นอย่างไร ขาดอะไรบ้างในสิ่งต่อไปนี้

ทักษะด้านภาษาอังกฤษ การอ่าน การเขียน การฟัง การพูด รวมถึงการสนทนา

ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ โดยลองดูในประเด็นตามหลักสูตร International Computer Driving License (ICDL) 7 รายการ ท่านสามารถสอบผ่านได้สัก 4 รายการหรือไม่

ทักษะการใช้ Keyboard สามารถพิมพ์สัมผัสได้ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ในความเร็ว 25 คำต่อนาที (Words Per Minute – WPM) หรือไม่

ทักษะการเขียนความเรียง (Essay) อันจำเป็นสำหรับการศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษานี้ ท่านได้เคยเขียนงาน และนำเสนอเป็นความเรียงมาอย่างอย่างน้อยสัก 10 รายการที่ได้รับการตีพิมพ์ ที่เป็นทั้งในลักษณะกระดาษ และออนไลน์หรือไม่

----------------------------------------------------

บทเรียนที่ 2 หลักในการเรียน

บทเรียนที่ 2 หลักในการเรียน

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

Updated: Thursday, October 30, 2008

Keywords: cw154, การเรียนการสอน, ICT, นวตกรรม

ความนำ

เราจะเรียนรู้กันอย่างไรในโลกยุคใหม่ที่ในโลกมีข้อมูล (Information) มากมายมหาศาล มีหลายอย่างที่เป็นความรู้ (Knowledge) ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เก่าและล้าสมัยไปอย่างรวดเร็ว

ในการเรียนวิชานี้ เป็นเรื่องที่ไม่มีใครที่จะรู้ไปในทุกเรื่อง ผู้สอนไม่ว่าใครก็จะไม่มีความรู้มากพอที่จะสอนผู้เรียนได้ในทุกเรื่อง บทบาทผู้สอนเป็นเพียงทำหน้าที่เป็นผู้แนะนำการเรียน (Facilitators) คนคอยให้ข้อเสนอแนะ (Guides) และชิ้แหล่งที่จะไปศึกษาต่อ หรือให้หลักที่จะประเมินว่าได้มีการศึกษามาอย่างถูกทางแล้วหรือไม่ แต่หน้าที่การเรียนเป็นของผู้เรียน ซึ่งในวิชานี้ต้องการความรู้ในลักษณะต่อไปนี้

รู้เร็ว

ผู้เรียนที่จะเตรียมตัวเป็นนักบริหารการศึกษายุคใหม่จะได้รับแรงกดดันที่จะต้องสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาอันเหมาะสม ไม่มีใครที่จะยืดเวลาการตัดสินใจ หรือดำเนินการไปได้ตลอดเวลา ถึงจุดหนึ่งก็จะต้องนำไปสู่การตัดสินใจแก้ปัญหา ดังนั้น นักบริหารการศึกษาต้องสามารถเรียนรู้สรรพสิ่งได้อย่างรวดเร็ว

แนะนำ

การใช้วิธีการเรียนรู้การเรียนอย่างเป็นระบบ ดังเช่น

- ฝึกการใช้คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต และนำไปสู่การค้นคว้า การใช้ระบบสืบค้นเป็น เช่น การใช้ Google, Yahoo, Dictionary.com, ฯลฯ

- ฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ และอ่านจับใจความ (Reading Comprehension)

- เรียนรู้ที่จะเลือกอ่านตามลำดับความสำคัญ ข้อมูลในโลกมีมาก เราต้องตัดสินใจได้ว่า อะไรต้องอ่าน (Must) อะไรควรอ่าน ถ้ามีเวลา และเป็นความสนใจของเรา (Shoud) และอะไรรับรู้เอาไว้ และเมื่อมีความสนใจในอนาคต ก็กลับมาศึกษาอีกครั้ง (May Be)

รู้กว้าง

รู้กว้างและรู้ไกล ลองมองลักษณะเหยี่ยวหรือนกอินทรีย์ที่มีสายตาที่มองได้ยาวไกล เห็นได้ชัดอย่างยาวไกล เมื่อบินในที่สูงก็จะเห็นป่าทั้งป่า

คนบางคนรู้ลึก แต่ไม่รู้กว้าง แต่นักบริหารที่จำเป็นต้องเรียนรู้อย่างเชื่อมโยงจึงจำเป็นต้องมีความรอบรู้กว้างขวาง

แนะนำ

คนเราจะเป็นคนรู้กว้างได้ด้วยหลายสาเหตุ ความรู้กว้างเป็นประโยชน์ ทำให้เราสามารถเชื่อมโยงองค์ความรู้ที่มีอยู่ทั่วไปได้อย่างดี ทำให้การเรียนรู้นั้นๆ ไม่จำเป็นต้องไปจับต้องในรายละเอียด ข้อแนะนำคือ

- ความรู้กว้างที่ทำให้เข้าใจความเป็นระบบ รู้ความเป็นไปและความเปลี่ยนแปลง

- ความรู้กว้างที่ทำให้เข้าใจในสิ่งที่เป็นสภาพแวดล้อม (Environment, Context) บางอย่างในประสบการณ์ชีวิต อะไรที่ประสบความสำเร็จ ณ ที่หนึ่ง แต่เมื่อนำไปใช้ในอีกที่หนึ่ง หรือในกาลเวลาที่แตกต่างกัน ก็อาจไม่ได้ประสบผลดังที่เคยเป็น

ความรู้กว้างจะเป็นตัวช่วยอธิบาย

รู้ลึก

เหยี่ยวหรือนกอินทรีย์ มองกว้างเห็นทั้งป่าแล้ว แต่เมื่อต้องการจะจับเหยื่อกินเป็นอาหาร นกจะเริ่มมุ่งความสนใจไปสู่เป้าหมาย คนที่จะทำงานบริหารนั้นก็จะมีลักษณะเช่นเดียวกัน

เมื่อเริ่มจากรู้กว้างแล้ว เมื่อจะนำไปสู่การตัดสินใจใดๆ จำเป็นต้องมีการศึกษาในแนวลึก และนักบริหารการศึกษาจะต้องมีขีดความสามารถที่จะจับประเด็น เรียนรู้ในสิ่งนั้นๆ ได้อย่างลึกซึ้ง

เราเลือกที่จะศึกษา เลือกที่จะ Focus สู่ประเด็น แล้วจึงนำไปสู่การรู้ลึก เพราะถ้าไม่รู้พอ และรู้อย่างแท้จริง ก็อาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดได้

แนะนำ

เป็นไปได้หรือไม่ที่คนเราจะรู้กว้างและรู้ลึกไปพร้อมๆ กัน คำตอบคือเป็นไปได้

เช่นความรู้กว้างๆ บางอย่างเป็นความจำเป็นในชีวิตที่ทุกคนจำเป็นต้องเรียนรู้ ในมหาวิทยาลัยหลายๆ แห่งในการเรียนระดับปริญญาตรี เขาให้ต้องเรียนวิชาทางด้าน General Educatio หรือในภาษาไทยเรียกว่า การศึกษาทั่วไป ทั้งนี้เพื่อไม่ให้คนเราต้องเรียนรู้และใช้ชีวิตอย่างคับแคบ ความเป็นบัณฑิตนั้นคือผู้ที่ต้องรอบรู้

ในอีกด้านหนึ่ง คือต้องรู้ลึก ดังเช่น คนเราต้องมีสายวิชาเอก ความรู้ความสนใจในระดับนำไปประกอบอาชีพ หรือเป็นนักวิชาชีพได้ เช่น จะเป็นแพทย์ก็ต้องรู้ลึกที่จะทำงานได้ สมกับใบประกอบวิชาชีพ รู้งูๆปลาๆ หรือรู้ไม่จริง ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ วิศวกร สถาปนิก อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินได้

ดังนั้นจึงต้องเป็นเรื่องรู้กว้างในส่วนใด และรู้กว้างสักเพียงใดพอ และในส่วนของรู้ลึกนั้นในส่วนของอะไร และจะลึกเพียงใดพอ

รู้อย่างวิเคราะห์และสร้างสรรค์

การเรียนรู้ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเชื่อ

สิ่งที่รู้มาอาจไม่ใช่เป็นความจริงก็ได้ ดังนั้นจึงต้องมีทักษะในการคิดอย่างวิเคราะห์ (Analytical Thinking)

ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือต้องมีความสามารถในการคิดอย่างสร้างสรรค์ (Creative Thinking) คนบางคนเรียนมาแบบตะวันตก คือมีความสามารถในการวิเคราะห์วิพากษ์ แต่ไม่มีความสามารถที่จะนำเสนอสิ่งใหม่ในสังคม ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้ ก็จะไม่เกิดการคิดริเริ่มใหม่ๆ ในเรื่องนี้สิ่งหนึ่งคือความสามารถที่จะคิดอย่างสร้างสรรค์ คิดอย่างต้องหาหนทางทำสิ่งใหม่ที่ดีกว่าเดิม

แนะนำ

ศึกษาเพิ่มเติมในส่วนของ Critical Thinking, Analytical Thinking, Creative Thinking) การเรียนในระดับนักวิชาการ วิชาชีพ และการนำไปสู่ความเป็นผู้นำ และนักบริหารระดับสูงนั้น คุณสมบัติการคิดวิเคราะห์และสร้างสรรค์จำเป็น

ให้ศึกษาเพิ่มเติม และปรับนิสัยไปสู่การคิด ทำงาน อ่านและ เขียนอย่างวิเคราะห์ และสร้างสรรค์

รู้แล้วนำไปปฏิบัติได้

บทบาทของนักบริหารประการหนึ่งคือ เรื่องของ Action, Action, and Action

กล่าวคือท้ายที่สุดคือการต้องนำไปสู่การปฏิบัติได้ และการได้ลองปฏิบัติในขนาดไม่ใหญ่โตอะไรนัก แล้วเรียนรู้ปรับปรุงระบบไปสู่สิ่งที่ดีและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

แนะนำ

การศึกษาต่อในระดับปริญญาขั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นการเรียนในเวลาปกติ หรือนอกเวลา แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นการศึกษาเล่าเรียนในขณะที่มีงานที่ต้องทำเพื่อเลี้ยงชีพควบคู่ไปด้วย จึงต้องมีการจัดแบ่งเวลา และบริหารเวลาอย่างเหมาะสม และขณะเดียวกัน เรียนอะไรแล้ว ต้องฝึกนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานไปด้วย ดังคำที่ว่า

- Learning by doing.

กิจกรรม

การสมัครเป็นสมาชิกของโครงการ พัฒนาคุณภาพการศึกษา (Education Quality Improvement – EQI) โดยไปที่ Website: www.itie.org/eqi/ และทำกิจกรรมต่อไปนี้

  1. สมัครเป็นสมาชิกใหม่ เพื่อให้ได้ Login และมี Password ของตนเอง
  2. เข้าไปใช้งานในครั้งแรก โดยต้องมี Login และ Password ที่ถูกต้อง โครงการจะอนุญาตให้คนเข้าไปนำเสนองานและความคิดเห็นต่างๆ ได้ด้วยต้องลงทะเบียน สมาชิกไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
  3. ปรับแก้ข้อมูลส่วนตัวที่สมบูรณ์ อย่าลืมต้องใส่ Signature รายละเอียดส่วนตัว ชื่อภาษาไทย ชื่อภาษาอังกฤษ หน่วยงานหรือสถานภาพ E-mail Address ที่สามารถติดต่อได้ แล้วอย่าลืม Click ในคำสั่งให้ต้องแสดง Signaturre ทุกครั้งที่นำเสนอบทความ เสวนาและข่าวสาร

- ดูตัวอย่างที่เมื่อใส่ Signature แล้ว จะมีรายละเอียดเกี่ยวกับตนเองปรากฏในทุกข้อความที่นำเสนอ คล้ายกับต่อไปนี้

ประกอบ คุปรัตน์ Pracob Cooparat, Ph.D.
มูลนิธิก้าวไกลในเอเซีย
SpringBoard For Asia Foundation (SB4AF)
โทรศัพท์. 0-2354-8254-5, โทรสาร 0-2354-8316
E-mail:
pracob@sb4af.org

4. การแนะนำตนเอง ให้ทุกคนเข้าไปใน โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษา(EQI) หน้ากระดานเสวนาหลัก -> EQI แล้วเขียนแนะนำตนเองในลักษณะของการเขียน Resume หรือที่เรียกว่า Biodata ทั้งนี้ท่านอาจจะไม่ใส่โทรศัพท์ที่เป็นส่วนตัว เช่น Mobilephone Number, บางคนอาจใส่รายละเอียดเพื่อให้คนสามารถติดต่อไปที่ทำงานได้ บางคนอาจจะสงวนไว้ บางคนหากต้องการสงวน Identity ส่วนตัวเอาไว้ ต้องแจ้งให้ผู้สอนทราบ

- ให้ใส่ Titile ว่า แนะนำตนเอง ประกอบ คุปรัตน์ ดังนี้เป็นต้น

  1. การนำเสนอต้องให้เป็นงาน Original ต้องการเห็นงานที่เป็นการค้นคว้า แปล หรือเรียบเรียงขึ้นเองเป็นอันดับแรก หากเป็นงานที่ได้คัดลอกบางส่วนมาจากที่อื่นๆ ต้องใส่แหล่งที่มาอย่างถูกต้อง การไปคัดลอกงานที่อื่นๆ มานำเสนอโดยไม่แจ้งแหล่งที่มานั้นผิดจรรยาบรรณทางวิชาการ และมีความผิดตามกรอบกฎหมายลิขสิทธิ์ทางปัญญา
  2. การนำเสนอบทความหรือเขียนกรณีศึกษา (Case Study) ต้องเน้นการเลือกกรณีที่ตนเองเกี่ยวข้อง เช่นศึกษาเกี่ยวกับหน่วยงานของตนเอง โรงเรียนที่ตนเองสอนหรือบริหารงานอยู่

การทุจริตในการลอกเลียนงานวิชาการ

โดยประกอบ คุปรัตน์
Updated: Monday, October 16, 2006

Keywords: pp001 การบริหารการศึกษา การบริหารวิชาการ

การทุจริตในการลอกเลียนงาน (Plagiarism) เป็นปัญหาที่รุนแรงมากขึ้นในโลกยุคปัจจุบันที่มีข้อมูลข่าวสารต่างๆ มากมาย

ในการเรียนในระดับสูงยิ่งขึ้นไปนั้น มักจะใช้วิธีการวัดความสามารถด้วยการให้ทำงานนั้นๆ ในที่อื่นๆ นอกห้องเรียนได้ เช่นเป็นงานภาคนิพนธ์ (Term Paper) หรือดูที่งานวิทยานิพนธ์ (Thesis) และเมื่อเป็นการทำนอกสถานที่ๆ ไม่สามารถไปควบคุมได้ว่าผู้ทำงานนั้นได้งานมาอย่างไร ถูกต้องตามหลักวิชาการ มีการริเริ่มเอง หรือไปลอกงานคนอื่นๆ มา เรื่องนี้เป็นปัญหาทางงานวิชาการ และในบางกรณีมีผลไปถึงงานอื่นๆ เมื่อนำงานนี้ไปใช้และอ้างอิงกลับมายังงานดั้งเดิม

ทุกสถานศึกษาต้องมีความจริงจังในเรื่องนี้ เพราะการลอกเลียนงาน (Plagiarism) ในลักษณะเช่นนี้ไม่เป็นผลดีต่อแวดวงวิชาการ เป็นการทำให้ความน่าเชื่อถือของการศึกษาเป็นเรื่องที่เสียหาย และจะมีผลลบต่อสถานศึกษาที่ได้ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

ในแวดวงวิชาการไทยในการศึกษาปริญญาขั้นสูง ในปัจจุบันมีบุคคลและหน่วยงานเอกชน นอกระบบรับทำงานวิชาการให้กับบุคคลต่างๆ ที่ต้องการทางลัด ก้าวหน้าทางวิชาการอย่างง่ายๆ การลอกเลียนงานนี้มีราคาตั้งแต่เป็นพันบาท จนเป็นหมื่น และแสนบาท ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นการผิดกฎหมาย ผิดจรรยาบรรณทางวิชาการ และเป็นสิ่งที่ต้องห้ามอย่างยิ่งในแวดวงวิชาการ ปัญหาเช่นนี้บ่อนทำลายค่านิยมอันดีงามในประเทศและสังคมทั่วโลก

ย้อนไปดูในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเขามีค่านิยมเรื่องความซื่อสัตย์และการทำงานอย่างตรงไปตรงมา ปัญหาด้านการทุจริตทางวิชาการเช่นนี้ก็มีอย่างแพร่หลาย โดยได้มีการสำรวจพบว่าร้อยละ 36 ของนักศึกษาระดับปริญญาตรีได้ใช้งานลอกเลียนส่งอาจารย์ผู้สอน

และจากรายงานของ US News และ World Report พบว่างานร้อยละ 90 ของนักศึกษาเชื่อว่าการโกงนี้ไม่สามารถจับได้ และไม่ได้รับการลงโทษอย่างเหมาะสม

หน่วยงานชื่อ Generation and the Nex ได้กล่าวว่ามีร้อยละ 58.3 ของนักเรียนมัธยมศึกษาได้รับว่าได้เคยให้งานเพื่อนไปลอกในปี ค.ศ. 1969 และในปี ค.ศ. 1989 หรือ 20 ปีให้หลังพบว่าร้อยละ 97.5 ได้ยอมรับในลักษณะเดียวกัน

ในการศึกษาของ Ronald M. Aaron และ Robert T. Georgia ได้ศึกษาฝ่ายบริหารจัดการความไม่ซื่อสัตย์ในสถาบันอุดมศึกษา จากการเก็บข้อมูลจากผู้บริหารงานด้านนักศึกษา 257 คนทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยในสหรัฐเองไม่ได้ใส่ใจต่อปัญหาดังกล่าวอย่างเพียงพอ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง

จากการศึกษาของ Gallup Organization ซึ่งเป็นสำนักสำรวจ ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2000 หรือประมาณ 6 ปีมาแล้ว ได้กล่าวถึงปัญหาสำคัญ 2 ประการในประเทศสหรัฐอเมริกา คือ (1) การศึกษา และ (2) วินัยและศีลธรรม ซึ่งทั้งสองด้านนี้ คนให้ความสำคัญสูงกว่าปัญหาด้าน อาชญากรรม ยาเสพติด การจัดเก็บภาษี การมีปืนในครอบครอง สภาพแวดล้อม และปัญหาการถือผิวในประเทศ

จากการศึกษาในระดับชาติของสหรัฐ และตีพิมพ์ใน Education Week พบว่าร้อยละ 54 ของนักเรียนได้รับว่าได้ทำการลอกเลียนงานผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ร้อยละ 74 รับว่าอย่างน้อย 1 ครั้งในช่วงการเรียนในปีที่ผ่านมาได้มีการกระทำดังกล่าว และร้อยละ 47 เชื่อว่าครูอาจารย์ของเขาได้เลือกที่จะไม่ใส่ใจกับปัญหาการทุจริตดังกล่าว

โดยทั่วไปแล้วครูอาจารย์ต่างตระหนักว่าเป็นปัญหาที่ร้ายแรง แต่เขาก็คิดว่ามีอำนาจน้อยไปที่จะไปหยุดสิ่งเหล่านี้

ย้อนกลับมาดูในประเทศไทย หากระบบการศึกษายังอาศัยการจัดสอบในห้องเรียน วิธีการวัดความสามารถในขั้นสูง เช่น ความคิดริเริ่ม การทำงานเป็นกลุ่ม การคิดซับซ้อนที่ต้องใช้เวลา และต้องอนุญาตให้ใช้การคนคว้านอกห้องเรียน และทำงานส่ง ดังนี้เป็นการเปิดโอกาสในการทุจริต เมื่อนักเรียนนักศึกษาต้องการทำงานให้ดีที่สุดในสายตาครูอาจารย์ แต่ระบบการให้ทำงานนอกชั้นเรียนนั้น เป็นสิ่งสำคัญ เพราะในโลกแท้จริงนั้นปัญหามิได้มีเหมือนกับระบบสอบแบบกระดาษและดินสอ หรือการพิสูจน์ความสามารถในห้องที่ไม่มีอะไรเลย และให้เวลาในการทำงานเพียง 1-3 ชั่วโมง ซึ่งผู้เรียนต้องใช้ความจำเป็นหลัก จำได้เพียงใด ก็นำไปตอบได้ตามที่จำมาได้ โลกยุคใหม่มีข้อมูลต่างๆ มากมายที่ผู้เรียน และคนทำงานในโลกความเป็นจริง มีสิทธิที่จะไปศึกษา เลือกหา

เราจะทำอย่างไรกับปัญหาทางสองแพร่งเช่นนี้ เลือกใช้การสอบในแบบเดิมที่เป็นแบบกระดาษและดินสอ (Paper and Pencils) ไม่ให้นำอะไรเข้าชั้นเรียนเลย หรือจะให้สอบในวิธีการจำลองชีวิตจริง การให้ทำงานส่ง การทำวิทยานิพนธ์ ซึ่งเปิดช่องให้มีการทุจริตกัน เรามีทางเลือกอื่นๆ อีกไหม

_________________

ประกอบ คุปรัตน์ Pracob Cooparat, Ph.D.
มูลนิธิก้าวไกลในเอเซีย
SpringBoard For Asia Foundation (SB4AF)
โทรศัพท์. 0-2354-8254-5, โทรสาร 0-2354-8316
E-mail:
pracob@sb4af.org


แบบสำรวจวิธีการเรียนและทำงาน

หากท่านต้องการประสบความสำเร็จในชีวิตการเรียนและการทำงานในยุคใหม่ ลองปฏิบัติตนดังนี้

กิจกรรมและความสามารถ

Yes

No

1. สอบความสามารถด้านภาษาผ่าน TOEFL, หรือ CU-TEP ด้วยคะแนนไม่น้อยกว่า 500 คะแนน

2. สอบความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ดัง ICDL ผ่านได้อย่างน้อย 4 จาก 7 โมดูล

3. สามารถพิมพ์งาน (Keyboard Skills) ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ พิมพ์สัมผัสได้อย่างถูกต้อง

4. พิมพ์งานภาษาไทยด้วยความเร็วไม่น้อยกว่า 20 คำต่อนาที (WPM)

5. พิมพ์งานภาษาอังกฤษด้วยความเร็วไม่น้อยกว่า 20 คำต่อนาที (WPM)

6. ใช้เวลาในทุกสัปดาห์อย่างน้อย 5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ด้วยตนเองนอกชั้นเรียน

7. ฝึกทักษะงานเขียน/พิมพ์งาน ที่ต้องเขียนขึ้นเอง (ไม่ใช่ไป Copy หรือ Cut & Paste) อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 หน้ากระดาษ

8. เขียนผลงานวิชาการ บทความที่มีความเป็น Originality เป็นงานที่มีคุณภาพที่ตนเองพอใจได้อย่างน้อยปีละ 3 เรื่อง

9. ได้จัดทำ Reading Logs เก็บงานวิชาการ ข้อค้นพบ และบันทึกแหล่งที่มาของข้อมูลดังกล่าวจนเป็นนิสัย

10. สามารถใช้โปรแกรมการคำนวณอย่างง่ายๆ ด้วยเครื่องมืออย่าง MS Excel สามารถใส่สูตรการคำนวณได้อย่างถูกต้อง