เศรษฐกิจใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำ
ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org
Updated: Tuesday, October 19, 2010
ศึกษาและเรียบเรียงจาก “The New Economy: Water-Driven?” โดย Megan Gibson จาก Time, NewsFeed
Keywords: Environment, economy, climate change, water reserves, water resources, shortages
ในขณะที่ประเทศไทยในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2553 กำลังเจิ่งนองไปด้วยน้ำ ทางหลายสายถูกตัดขาด น้ำท่วมไร่นาบางส่วนเสียหาย เขาบางส่วนจะถล่ม ดินจะทลาย แต่ในอีก 4-5 เดือนข้างหน้า น้ำจะลด ไทยจะขาดแคลนน้ำในหลายๆเขต เป็นไปได้หรือเปล่าว่าเราเรียนรู้เรื่องน้ำน้อย เข้าใจธรรมชาติเกี่ยวกับมันน้อย และถึงเวลาแล้วที่เราต้องใส่ใจกับเทคโนโลยีที่มีมาแต่โบราณ และก็ยังต้องพัฒนาต่อไป นั่นคือ เทคโนโลยีเกี่ยวกับน้ำ (Water Technology)
เมื่อเร็วๆนี้ได้มีรายงานฉบับหนึ่งได้กล่าวถึงสภาพความจำกัดของน้ำ มูลนิธิจอนสันได้เปิดเผยรายงานเรื่อง “น้ำใหม่ การเรียกร้องให้สหรัฐได้ใส่ใจในการท้าทายที่เกิดขึ้น” หรือ "Charting New Waters: a Call to Action to Address U.S. Freshwater Challenges," ซึ่งได้พูดถึงเทคโนโลยีเกี่ยวกับน้ำ ที่คาดว่า 36 รัฐจะประสบกับสภาวะขาดแคลนน้ำในปีค.ศ. 2013
ในประเทศสหรัฐอเมริกา พื้นที่ย่านฝั่งตะวันออกในส่วนที่ใกล้ทะเลเท่าใด ก็จะมีพื้นที่สีเขียว มีความชุ่มชื้น ฝนตกมากวันต่อปี แต่เมื่อลึกเข้าไปในแผ่นดิน น้ำก็จะน้อยลงไปเรื่อย จนไปแห้งที่สุดในแถบรัฐอริโซน่า เนวาดา ส่วนชายฝั่งตะวันตกนั้น มีฝนตกชุกเพียงบางจุด แต่เมื่อข้ามเทือกเขา Rocky Mountain มาแล้วแนวฝนตกชุกก็จะลดหายไป แต่ด้วยการดำรงชีวิตของมนุษย์นั้นผูกพันกับน้ำอย่างมาก ตลอดจนอาหารการกิน การทำการเกษตร ล้วนต้องใช้น้ำ จึงทำให้เราต้องสนใจเรื่องน้ำและธรรมชาติที่เกี่ยวข้อง
มูลนิธิจอนสัน (Johnson Foundation) กล่าวว่า เศรษฐกิจนั้นเกี่ยวข้องกับการขาดแคลนน้ำ และน้ำนั้นเกี่ยวข้องอย่างยากจะแยกกันออกกับประเด็นพลังงาน
การใช้น้ำประมาณร้อยละ 40 เป็นสิ่งที่ต้องได้มาด้วยใช้พลังงาน ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า Big carbon footprint จะเกี่ยวกับการทำให้เกิด big water footprint หรือพูดเป็นภาษาง่ายๆก็คือ ใช้น้ำมาก ก็จะทำให้ต้องใช้พลังงานมาก เพราะการใช้น้ำ ส่วนหนึ่งต้องอาศัยการสูบหรือใช้พลังงานเพื่อจ่ายน้ำเข้าสู่ระบบการเกษตรและการบริโภคของเรา ไม่ว่าจะในไร่นา หรือในเมืองใหญ่
รายงานดังกล่าวกระตุ้นให้อเมริกันต้องหันมาสนใจเทคโนโลยีเกี่ยวกับน้ำ (Water Technology) และขณะเดียวกัน ต้องหาหนทางที่จะลดการใช้พลังงาน โดยเฉพาะพลังงานที่เกิดจากการเผาผลาญคาร์บอน และได้กล่าวเตือนว่าปัญหาด้านน้ำจะส่งผลกระทบทั่วโลกภายในไม่อีกกี่ปีข้างหน้า
ผมสนใจเรื่อง "น้ำ" เพราะน้ำเป็นสิ่งที่เราต้องดื่มต้องใช้ แต่เรายังไม่เข้าใจเรื่องน้ำอย่างเพียงพอและถูกต้อง เรามองน้ำอย่างแยกส่วน เรามีภาคหรือคณะวิชาว่าด้วย "วิศวกรรมชลประทาน ที่ให้ความสนใจไปในการสร้างเขื่อน เป็นส่วนหนึ่งของ Civil Engineering แต่เรา้ต้องการความรู้เรื่องน้ำที่มากกว่านี้ เพราะมันเกี่ยวข้องทั้งเรื่อง พลังงาน การเกษตร การอนุรักษ์น้ำ การรักษาสิงแวดล้อม การดำรงชีพของมนุษย์ในสภาวะต่างๆกันทั้งน้ำมาก ขาดแคลนน้ำ และไร้น้ำ
ReplyDeleteน่าจะลองคิดในระบบอุดมศึกษา วางโครงสร้างวิทยาการใหม่ ที่ทำให้เราเข้าใจและสามารถจัดการเรื่องน้ำได้อย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น