Manuel Uribe คนที่เคยอ้วนที่สุดในโลก

Manuel Uribe คนที่เคยอ้วนที่สุดในโลก

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob@sb4af.org

ศึกษาและเรียบเรียงจาก Wikipedia, the free encyclopedia

Keywords: cw801, obesity, โรคอ้วน, สุขภาพ

ผมขอนำเรื่องของคนที่เคยอ้วนที่สุดในโลก และปัจจุบัน เขาได้ใช้การลดน้ำหนักภายใต้การดูแลของแพทย์และนักโภชนาการ มานูเอล อูริเบ่ (Manuel Uribe) ซึ่งเมื่อหนักสูงสุด เขาหนักถึง 597 กิโลกรัม การติดตามศึกษาชีวิตของเขาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเรียนรู้และเป็นสุขศึกษาสำหรับนักเรียน นักศึกษา ครูอาจารย์ และพ่อแม่ผู้ปกครองที่จะต้องหาทางจัดการกับปัญหาโรคอ้วน (Obesity) ซึ่งจะเป็นปัญหาด้านสุขภาพอนามัยของสังคมไทยในระยะต่อไปนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ดังที่ได้เกิดขึ้นในประเทศพัฒนาแล้ว อย่างสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย อังกฤษ และยุโรปทั้งหลาย

Manuel Uribe
เกิดเมื่อวันที่ Born	June 11, 1965 (1965-06-11) (age 45) Monterrey, Nuevo León, Mexico

Keywords: cw801, obesity, โรคอ้วน, สุขภาพ

Manuel Uribe ชายที่เคยได้ชื่อว่าอ้วนที่สุดในโลก เกิดเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ค.ศ. 1965 ที่เมือง Monterrey, Nuevo León, ประเทศเมกซิโก (Mexico) จัดเป็นคนที่อ้วนที่สุดในประวัติศาสตร์ เมื่อน้ำหนักสูงสุด เคยหนักถึง 597 กิโลกรัม หรือ 1320 ปอนด์ และเพราะความอ้วนที่เพิ่มขึ้น ทำให้เขาไปไหนมาไหนไม่ได้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2001 เมื่อรับการรักษาพยาบาล เขาสามารถลดน้ำหนักได้ 400 ปอนด์ หรือหนึ่งในสามของน้ำหนักตัวเขา ทั้งนี้โดยอาศัยแพทย์และนักโภชนาการ และด้วยการใช้ Zone diet Uribe ได้รับความสนใจไปทั่วโลก เมื่อเขาปรากฏตัวในโทรทัศน์ Televisa อันเป็นโทรทัศน์เครือข่ายในเดือนมกราคม ค.ศ. 2006 แต่เขาปฏิเสธการรับการผ่าตัดแบบ gastric bypass surgery ในประเทศอิตาลี (Italy)

ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2007 Uribe ตั้งเป้าว่าเขาจะลดน้ำหนักลงให้เหลือ 120 กิโลกรัม (260 ปอนด์) Uribe ได้ปรากฏตัวใน “คนที่หนักที่สุดในโลก” - The world’s Heaviest Man เป็นการเปิดเผยชีวิตของเขาที่ต้องอยู่แต่ในเตียง และความตั้งใจของเขาที่จะลดน้ำหนักลง

ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2008 Uribe ได้ลดน้ำหนักลงเหลือ 360 กิโลกรัม และเขายังคงตั้งใจที่จะลดน้ำหนักลงต่อไป

ในกลางปีมีข่าวที่ผิดพลาดว่าเขาได้เสียชีวิตแล้ว

Manuel Uribe มีความตั้งใจที่จะลดน้ำหนักลงอีก 225 กิโลกรัม (500 ปอนด์) ซึ่งจะเป็นน้ำหนักตัวที่ทำให้เขาสามารถเดินได้ เคลื่อนไหวได้ด้วยกำลังของตัวเอง การติดตามศึกษาชีวิต และการลดน้ำหนักภายใต้การดูแลของแพทย์และนักโภชนาการ จะเป็นการศึกษา และการสร้างแรงดลใจให้กับหลายคนที่กำลังประสบปัญหาโรคอ้วนในระดับต่างกัน ที่จะมีพลังใจในการดูแลสุขภาพของตนเองให้เป็นปกติ