นายกอภิสิทธิ์ได้ตัดสินใจดำเนินการที่เหมาะสมแล้ว

นายกอภิสิทธิ์ได้ตัดสินใจดำเนินการที่เหมาะสมแล้ว

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
E-mail: pracob.cooparat@gmail.com

Keywords: การเมือง politics, การปกครอง government, governance, ประเทศไทย, Thailand, ความเป็นผู้นำ leadership, อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, Abhisit Vejjajiva, ทักษิณ ชินวัตร, Thaksin Shinawatra

เมื่อผมคุยกับเพื่อนชาวตะวันตกที่เขาได้ติดตามความเป็นไปในประเทศไทย เขามองนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ (อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, Abhisit Vejjajiva) ว่า เป็นคนฉลาด มีการศึกษา เป็นคนดี และมีความซื่อสัตย์ แต่ได้รับคำวิจารณ์ว่าไม่เข้มแข็ง และจึงทำให้ไม่สามารถเป็นผู้นำที่ตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด

ผมยังได้ถามว่า เอาอะไรมาวัดความเป็นผู้นำว่าอ่อนแอหรือเข้มแข็ง ถ้าคำว่าเข้มแข็งอย่างที่อดีตนายกทักษิณ (ทักษิณ ชินวัตร, Thaksin Shinawatra) ได้เคยกระทำนั้น ผมว่าคนไทยที่เป็นชนชั้นกลาง นักวิชาการ นักวิชาชีพ ข้าราชการ หรือนักธุรกิจที่เขาทำการค้าตามปกติที่ไม่ได้เป็นพวกของใคร เขาคงไม่เห็นด้วย

หรือจะเป็นผู้นำอย่างนายกฮุน เซน ที่มีความเข้มแข็ง ครองอำนาจอยู่ได้ยาวนาน ผมก็คงไม่เห็นด้วย การเป็นผู้นำอย่างในประเทศไทย เราต้องแสดงความเป็นอารยะและมีวุฒิภาวะมากกว่าพฤติกรรมอย่างที่เราได้เห็นในเกมส์การเมืองจากนายกฯ ฮุน เซน เขาเล่นการเมืองในประเทศของเขา ผ่านเหตุการณ์ร้อนหนาว เป็นตายมาแบบอย่างที่เป็น เขาก็คงจะต้องทำอย่างที่เขาทำ เราไม่รู้ แต่ไม่พึงต้องทำแบบเดียวกัน

เมื่อการเมืองระหว่างประเทศระหว่างไทยและกัมพูชา ที่ได้เดินเกมส์โดยนายกรัฐมนตรีฮุนเซนของประเทศกัมพูชาได้ประกาศแต่งตั้งคุณทักษิณที่เป็นผู้ต้องโทษหนีคดีเป็นที่รับรู้ในประเทศไทย ให้เป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชานั้น เท่ากับผลักดันให้คุณอภิสิทฺธิ์ต้องออกมาตอบโต้โดยการเรียกเอกอัครราชทูตกลับ นับเป็นการตอบโต้ทางการฑูตอย่างพอเหมาะ โดยไม่ได้มีการสั่งปิดพรมแดน ยังปล่อยให้มีการค้าขายระหว่างประชาชนของทั้งสองฝั่งให้เป็นไปตามปกติ

วันนี้ 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 2009 สื่อและทัศนะจากคนไทยทั่วไปร้อยละ 75 เห็นด้วยกับการตอบโต้ของรัฐบาลไทย และเห็นว่าเหมาะสมแล้ว ภาพลักษณ์ที่นายกฯอภิสิทธิเป็นผู้นำที่ไม่เข้มแข็งก็ลดลงไปมาก ส่วนภาพของคุณทักษิณกลับออกมาในลักษณะที่เป็นพวกร้อนรน ฉกฉวยโอกาสเพื่อประโยชน์ส่วนตน (Opportunist) ไม่คำนึ่งถึงสิ่งที่ได้เกิดขึ้นและผลกระทบต่อชาติบ้านเมืองของตนเอง คงมีคนอีกเป็นอันมากคงตราหน้าคุณทักษิณว่าเป็น “พวกขายชาติ” (Traitor) และเมื่อบวกกับภาพของคุณทักษิณที่ออกมาสมทบกับฝ่ายคนเสื้อแดงที่ออกมาใช้ความรุนแรงล้มการประชุมอาเซียนที่พัทยาในช่วงเมษายน ค.ศ. 2009 ที่ผ่านมา และการจราจลแบบเผาเมืองที่กรุงเทพฯนั้น ยิ่งทำให้คนทั่วไปสงสัยว่าคุณทักษิณเป็นคนอย่างไร มีความปรารถนาดีต่อบ้านเมืองจริงหรือไม่

ความจริงผมไม่ค่อยชอบที่จะต้องมีสถานการณ์ที่ทำให้ประเทศไทยเราต้องไปเสี่ยงต่อการเสื่อมสัมพันธภาพกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา ความร่วมมือต่อกันย่อมจะเป็นสิ่งที่ดี มีการให้และการรับร่วมมือต่อกัน ย่อมจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเกมส์การเมืองมันต้องเดินไปในเส้นทางนี้ ก็ต้องทำอย่างมั่นใจ และถือโอกาสที่จะสร้างความรักชาติที่พอเหมาะแก่คนไทยโดยรวม แล้วผมก็อยากจะดูต่อไปว่า คุณทักษิณจะทำอะไรต่อไป