Sunday, November 22, 2009

ภาษาอังกฤษสำหรับนักศึกษายุคใหม่

ภาษาอังกฤษสำหรับนักศึกษายุคใหม่
ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat

วันที่
21 พฤศจิกายน ค.ศ. 2552

เวลา 11.30 ผมออกจากบ้านไปด้วยรถแท็กซี่ ไปยังจุดนัดหมายที่สำนักงานมูลนิธิก้าวไกลในเอเชีย วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีกรุงเทพฯ แถว อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อเตรียมเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่โรงแรมภูพญา อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

เมื่อไปถึงที่สำนักงานมูลนิธิก้าวไกลในเอเชีย (SB4AF) ผมได้พบกับนักศึกษาวิทยาลัยพยาบาล กลุ่มมุสลิมที่ได้มาศึกษาในโครงการพัฒนา 4-5 จังหวัดชายแดน ผมได้พบนักศึกษาพยาบาลจำนวน 7-8 คน ที่เขากำลังศึกษาในช่วงเช้า 9.00-12.00 น. โดยมีอาจารย์สุนทรดำเนินการสอนอยู่ ผมเลยถือโอกาสกล่าวเป็นภาษาอังกฤษกับผู้เรียนอย่างง่ายๆ ดูเขาไม่เครียดและเป็นกันเองดี

ที่วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีกรุงเทพฯ เขารับนักศึกษาจาก 4 จังหวัดชายแดนในโครงการทุนพิเศษ เป็นการส่งเสริมการศึกษาที่มีส่วนส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนคนไทยในภูมิภาคนี้ ผมยินดีรับใช้ด้วยความเต็มใจ เยาวชนเหล่านี้ เมื่อเขาจบการศึกษาไปแล้ว เขาต้องไปทำงานที่มีค่าและความหมายยิ่ง ผมไม่ใช่ทหาร ไม่ใช่นักรบ ไม่ใช่นักการเมือง แต่มีอะไรที่เราจะทำได้ ผมก็ยินดีจะทำให้ด้วยความเต็มใจ

ผมไม่ทราบว่านักศึกษามุสลิมกลุ่มนี้มีพื้นฐานภาษาอังกฤษเป็นอย่างไร ผมได้เคยบอผ่านทางวิทยากรและคณะผู้จัดว่า ขอให้เก็บทัศนคติของเขาเป็นหลัก ผลการเรียนเป็นเรื่องรอง ให้เขาได้เรียนอย่างมีทัศนคติที่ดี แล้วใช้เวลาพัฒนาไปตามระดับของเขา ไม่จำเป็นต้องไปเครียดมาก เพราะวิชาที่เขาเรียนนั้นมีการฝึกงานหนักอยู่แล้ว

ผมดีใจที่เขาไม่เครียด และอาจารย์สุนทร เจริญทัศน์ (Soontorn Charoentat) ก็เป็นอาจารย์ที่ได้ตั้งใจสอน และมีหลักการสอนของเขา ผมได้แนะนำครูแจ๋ว (คุณวิไลลักษณ์) ให้ต้องมีการทดสอบก่อนเรียนโดยใช้ Password Intro ซึ่งมีระดับที่ไม่ยากนัก และอาจเหมาะสำหรับผู้เรียนในระยะเริ่มตัน และจริงๆผมอยากทราบว่านักศึกษาพยาบาลทั่วไปนั้นมีพื้นฐานภาษาอังกฤษเป็นอย่างไร โดยขอให้เขาได้ได้มีการทดสอบนักศึกษาโดยทั่วไป เรียกว่า Controlled Group โดยทดสอบให้ได้สัก 30 คน กลุ่มต่ำ กลุ่มกลาง และกลุ่มสูง อย่างละ 10 รวมแล้ว 30 คน ทั้งนี้เพื่อให้ทราบว่านักศึกษากลุ่มมุสลิมนี้เขาได้พัฒนาไปอย่างไร ทั้งในด้านเนื้อหา ทัศนคติ และทักษะที่เกี่ยวข้อง ผมเสนอให้นักศึกษากลุ่มนี้ได้สามารถเข้ามาใช้เครื่อง PCs ที่มีอยู่ 4-5 เครื่อง มีระบบเครือข่ายต่อเชื่อมกับอินเตอร์เน็ตด้วยสายสัญญาณ ADSL ความเร็ว 1-2 Mbps

หากเป็นไปได้ ผมอยากให้นักศึกษาสายพยาบาล เมื่อจบการศึกษาสมบูรณ์แล้วมีพื้นฐานภาษาอังกฤษเทียบเท่ากับ IELTS หรือ Password 5.0 ขึ้นไป หวังผลสักร้อยละ 70 และส่วนที่เหลือคือร้อยละ 30 ควรจะผ่านที่อย่างน้อย Password 4.0

อย่างไรก็ตาม หากเราทำไม่ได้ในปีนี้ แต่หวังว่าจะร่วมมือและทำให้บรรลุผลในระยะต่อไป ภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องยาก แต่เราต้องทำอย่างมีแผนงานและขึ้นตอน และจุดสำคัญ ต้องรักษาใจของคนเรียน ใจหมายถึงทัศนคติ (Attitudes) ให้เขาเห็นความสำคัญ และใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เรียนรู้ และใช้งานอยู่เสมอ

หน้าที่ของมูลนิธิก้าวไกลในเอเชีย คือการทำให้มีกลุ่มผู้สนใจสอน มีความสามารถ มีใจอยากทำอะไรบางอย่าง ได้มาร่วมกันดำเนินการ

No comments:

Post a Comment