คนไทยยังเรียนรู้การเมืองของประเทศเพื่อนบ้านไม่มากพอ
ในขณะที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่วังวนของความขัดแย้งกับประเทศกัมพูชารอบใหม่ หลายคนกำลังเป็นโกรธเป็นแค้นนายกรัฐมนตรีฮุน เซน (Hun Sen) ว่าทำการอย่างที่อารยะประเทศเขาไม่ทำกัน บางส่วนโกรธแค้นอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยที่ไปรับเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจให้กับรัฐบาลกัมพูชา ในขณะที่ตนเองยังเป็นผู้ต้องคดีและได้รับการตัดสินจำคุก กลายเป็น Fugitive ของประเทศไทย
หากเราจะทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเมืองในกัมพูชา ซึ่งแม้ดูจะมีความมั่นคง นายกฯฮุน เซนครองอำนาจมายาวนาน แต่ก็มีความอ่อนไหวและเปราะบางเช่นกัน และคนที่เป็นปรปักษ์ทางการเมืองที่สำคัญของเขาคือ นายสม รังสี ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน
ประเทศไทย และรัฐบาลไทยพึงไม่เป็นศัตรูกับใคร เราพึ่งเป็นมิตรกับประเทศเพื่อนบ้าน และยอมรับในรัฐบาลของประเทศนั้นๆที่ถูกต้องตามกฎหมาย ในเชิงภูมิภาค เราเป็นมิตรกับทั้งประเทศกัมพูชา เวียตนาม และทุกประเทศใน ASEAN ความเป็นมิตรต่อกันย่อมจะนำความเจริญและความแข็งแกร่งมาสู่มวลสมาชิก และรวมถึงประเทศไทยด้วย
แต่เราจะยืนอย่างไรในสถานการณ์ที่ประเทศต่างๆในภูมิภาคนี้ยังมีสัมพันธภาพที่เปราะบาง ส่วนหนึ่งที่ทำได้ คือเราต้องปฏิบัติตนอย่างมีวุฒิภาวะ ไม่เอาเรื่องเล็กมาเป็นเรื่องใหญ่ เราไม่อยากให้เขามาทำอะไรกับเราอย่างไร เราก็พึงไม่ไปกระทำกับเขา ทั้งที่ลับและที่แจ้งอย่างนั้น
ประกอบ คุปรัตน์
บรรณาธิการ
Sunday, November 08, 2009
ข่าวจาก Sanook.com
ฝ่ายค้านสอน “ฮุนเซน” กรณี สม รังสี เข้าไทย-นช.แม้วเข้าเขมร
« เมื่อ: 25 ต.ค. 09, 21:43 น »
พรรคสม รังสี ซึ่งเป็นพรรคการเมืองฝ่ายค้านในกัมพูชา ได้ออกคำแถลงฉบับหนึ่งในนามคณะกรรมการบริหารพรรคเมื่อวันอาทิตย์นี้ (25 ต.ค.2552) ชี้ให้เห็นว่า สมเด็จฯ ฮุนเซน ไม่อาจจะนำกรณี นายสม รังสี เดินทางเข้าไทย ไปเป็นข้ออ้าง เปรียบเทียบการให้ นักโทษชาย ทักษิณ ชินวัตร เดินทางเข้ากัมพูชาได้
เมื่อเดินทางถึงไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำอาเซียนในวันที่ 23 ต.ค.สมเด็จฯ ฮุนเซน ได้ให้สัมภาษณ์ยืนยันเรื่องพร้อมจะให้ นช.ทักษิณ เดินทางเข้ากัมพูชา โดยให้เหตุผลว่า “ถ้าหาก (ผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา) สม รังสี สามารถเดินทางเข้าไทยเช่นที่เข้ามาเมื่อเร็วๆ นี้ และกล่าวโจมตีรัฐบาลกัมพูชา ทำไมทักษิณเพื่อนที่ดีของผม จะไม่สามารถเดินทางเข้ากัมพูชาแบบเดียวกันได้”
นายสม รังสี เดินทางเข้าไทยเมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2552 เพื่อแสดงปาฐกถาที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย หรือ FCCT (Foreign Correspondent Club of Thailand) เกี่ยวกับสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในกัมพูชา
การจัดปาฐกถาดังกล่าว มีจุดประสงค์ที่จะให้ผู้สังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศรวบรวม ทัศนะที่แตกต่างกัน ก่อนจะมีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนระหว่างรัฐบาลอาเซียน ซึ่งนำมาสู่การประชุมผู้นำอาเซียนที่หัว สุดสัปดาห์นี้
“การปรากฏตัวที่ FCCT ของนายสม รังสี ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งชายแดนระหว่างกัมพูชากับไทย และรัฐบาลไทยมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ในการแถลงข่าววันที่ 22 ก.ย.ที่นายสม รังสี เข้าร่วมด้วย” คำแถลงของพรรคสม รังสี ระบุ
ยังมีเหตุการณ์คล้ายกัน คือ เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ปีนี้ นายสม รังสี ได้เป็นแขกรับเชิญในงานเลี้ยงอาหารมื้อเย็นที่โรงแรมคอนราดสิงคโปร์ ซึ่งจัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งสิงคโปร์ (Foreign Correspondents’ Association in Singapore) และในช่วงคำตอบผู้สื่อข่าวนั้น นายสม รังสี ได้พูดจาในประเด็นคล้ายกับที่กล่าวในกรุงเทพฯ วันที่ 22 ก.ย.โดยรัฐบาลสิงคโปร์มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ในกรณีนี้เช่นกัน
ตรงกันข้าม เพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของกัมพูชา นายสม ได้เรียกร้องให้ชาวกัมพูชาทุกคนจากพรรคการเมืองต่างๆ ดำรงตน “เป็นกลาง” อย่างเคร่งครัด ต่อกรณีความขัดแย้งระหว่างประชาชนในประเทศเพื่อนบ้าน อะไรก็ตามที่เป็นผลจากความตึงเครียดทางการเมือง หรือความไม่สงบในประเทศไทย ก็อาจมีผลพวงต่อกัมพูชา คำแถลงกล่าว
No comments:
Post a Comment