Wednesday, November 18, 2009

กบฏ ปฏิวัติ รัฐประหาร และสงครามกลางเมือง

ประกอบ คุปรัตน์
ศึกษาและเรียบเรียง จากWikipedia, the free encyclopedia

Keywords: การเมือง การปกครอง ภาษาอังกฤษ

ความนำ

ประเทศไทยนับเป็นเวลาเกือบร้อยปี เราได้มีการพัฒนาทางการเมืองมาอย่างยาวนาน แต่ท้ายสุด ก็ยังมีความไม่แน่นอนทางการเมือง และนั่นเป็นอุปสรรคในการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และด้านอื่นๆของประเทศ ในบทความนี้ใคร่จะได้รวบรวมข้อมูลที่ได้มีใน Wikipedia ทั้งภาคภาษาไทยและอังกฤษ เพื่อนำเสนอในแบบที่ผู้ต้องการศึกษาต่อ ได้เข้าไปศึกษาได้ในระบบออนไลน์ทั้งที่เป็นภาษาไทย และอังกฤษ

มีคำกล่าวว่า ในสงครามนั้น ไม่มีผู้ชนะ มี่แต่ผู้แพ้ และมีคำกล่าวอีกว่า การจะชนะนั้นไม่ยาก แต่การจะรักษาชัยชนะไว้ให้ได้ยาวนานนั้นเป็นเรื่องทียากกว่า

กบฏ
Rebel

กบฏ (rebel) คือผู้ที่มีส่วนร่วมในการกบฏ (rebellion) ซึ่งดูจะเป็นคำตอบแบบกำปั้นทุบดิน หรือจะให้ชัดเจน คือผู้ต่อต้านอำนาจ (authority) หรือการควบคุมใดๆ (control) การต่อต้านอำนาจ หรือกลุ่มกระแสหลัก อาจมีได้ในหลายๆลักษณะ เช่น การต่อต้านด้านค่านิยม ทางศิลปวัฒนธรรม ทางความคิด หรือ ศาสนา แต่โดยส่วนใหญ่หมายถึงทางการเมืองการปกครอง ผู้ต้องการล้มอำนาจรัฐ ถือเป็นกบฏ

ในทางการเมือง กบฏคือผู้ก่อการล้มล้างระบบการปกครอง แล้วไม่สามารถกระทำสำเร็จ ต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่ถ้ากระทำสำเร็จเขาเรียกว่า การปฏิวัติ (Revolution) แม้แนวความคิดอาจจะเป็นอย่างเดียวกัน ตั้งใจอย่างเดียวกัน

รัฐประหาร
coup d'état

อีกคำหนึ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน คือคำว่า รัฐประหาร” (ฝรั่งเศส: coup d'état, กูป์เดตา) หรือ ยึดอำนาจ หมายถึงการล้มล้างรัฐบาลที่ บริหารปกครองรัฐในขณะนั้น แต่มิใช่การล้มล้างระบอบการปกครองหรือรัฐทั้งรัฐเสมอไป และมิจำเป็นต้องมีการใช้ความรุนแรงหรือนองเลือดเสมอไป เช่นหากกลุ่มทหารอ้างว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งบริหารประเทศชาติผิดพลาด และจำเป็นต้องบังคับให้รัฐบาลพ้นจากอำนาจ จึงใช้กำลังบังคับให้ออกจากตำแหน่งและประกาศรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หรือประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่ทันที เยี่ยงนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นการก่อรัฐประหาร

ความพยามในการก่อรัฐประหารที่ไม่ประสบความสำเร็จมักถูกดำเนินคดีในข้อหากบฎ

แต่มีบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในสมัยที่ผมเป็นเด็กๆ เมื่อมีการยึดอำนาจกันคราวใด ชาวบ้านเขาจะเรียกว่า ปฏิวัติ แต่ความเป็นจริงแล้ว คือการยึดอำนาจ กระทำรัฐประหาร เปลี่ยนแปลงการปกครอง ด้วยคนมีอาวุธในมือ โดยเข้าใจกันว่า หากเป็นการก่อการสำเร็จ เราจะเรียกว่า ปฏิวัติ ถ้าไม่สำเร็จก็เรียกว่า กบฏ ซึ่งเป็นความเข้าใจไม่ถูกต้องตามหลักภาษารัฐศาสตร์

ตัวอย่างของกบฏเหตุการณ์หนึ่ง คือ หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงขึ้นครองราชย์ได้เพียง 1 ปีเศษ ได้มีการรวมตัวกันของกลุ่มนายทหารชั้นผู้น้อย ก่อตั้งสมาคมขึ้นใช้ชื่อว่า “Anarchist” ภายหลังเรียกว่า กบฏ ร.ศ.130หรือ กบฏเก๊กเหม็ง (ปฏิวัติ)ในปี พ.ศ. 2454 โดยมีเป้าหมายหลัก คือ ต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครองให้เป็นระบอบประชาธิปไตย ซึ่งนับว่าเป็นกบฏกลุ่มแรกของประเทศไทย การกบฏครั้งนี้มีเป้าหมายล้มล้างการปกครองโดยมีแผนลอบสังหาร แต่กระทำการไม่สำเร็จ ดังนี้เรียกว่า กบฏ

แต่กบฏครั้งนี้ได้นำมาซึ่งการปฏิวัติปี พ.ศ. 2475 ในประเทศไทย

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 คณะราษฎร ได้ใช้กลลวง นำทหารบกและทหารเรือมารวมตัวกันบริเวณรอบ พระที่นั่งอนันตสมาคม ประมาณ 2,000 คน ตั้งแต่เวลาประมาณ 5 นาฬิกา โดยอ้างว่าเป็นการสวนสนาม จากนั้นนายพันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา ได้อ่าน ประกาศคณะราษฎร ฉบับที่ 1 ณ บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า เสมือน ประกาศยึดอำนาจการปกครอง ก่อนจะนำกำลังแยกย้ายไปปฏิบัติการต่อไป

การปฏิวัติครั้งนี้นับว่าได้มีการเตรียมตัวมาอย่างดี ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจของประเทศอยู่ในสภาพย่ำแย่ด้วยวิกฤติการณ์เศรษฐกิจโลกในระยะนั้น

หลักฐานประวัติศาสตร์ในเหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นหมุดทองเหลือง ฝังอยู่กับพื้นถนน บนลานพระบรมรูปทรงม้า ด้านสนามเสือป่า

กบฏ ปฏิวัติ รัฐประหาร และการลุกฮือของประชาชนในประเทศไทย (พ.ศ. 2455 - พ.ศ. 2549) จากการรวยรวมใน Wikipedia ภาคภาษาไทย

ปฏิวัติ (Revolution) การปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 จัดเป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองที่ได้ชื่อว่าเป็นการปฏิวัติ (Revolution) ที่ดำเนินการโดยกลุ่มข้าราชการผู้มีอำนาจ ทั้งทางทหารและพลเรือน เป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณายาสิทธิราช (Absolute Monarchy) ไปสู่ระบบระบบการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (Constitutional Monarchy) แม้ในข้อเท็จจริง ประเทศไทยยังต้องต่อสู้กับระบบการปกครองที่กลุ่มผู้มีอำนาจทางทหารเข้ายึดอำนาจตามมาอีกหลายครั้ง มีการยกเลิกรัฐธรรมนูญเดิม แล้วเขียนขึ้นใหม่ในทุกครั้ง

รัฐประหาร (coup d'état) ประเทศไทยได้มีการทำรัฐประหาร จนทำให้มีการเปลี่ยนแปลงการครองอำนาจรัฐสำเร็จ จำนวนหลังครั้งจนถึงปัจจุบันดังนี้ รัฐประหาร พ.ศ. 2476 (พระยามโนฯ ปิดสภา) | รัฐประหาร พ.ศ. 2476 (พระยาพลฯยึดอำนาจ) | รัฐประหาร พ.ศ. 2490 | รัฐประหารเงียบ พ.ศ. 2491 |รัฐประหาร พ.ศ. 2494 |รัฐประหาร พ.ศ. 2500 | รัฐประหาร พ.ศ. 2501 |รัฐประหาร พ.ศ. 2514 | รัฐประหาร พ.ศ. 2519 |รัฐประหาร พ.ศ. 2520 | รัฐประหาร พ.ศ. 2534 | และล่าสุด คือ รัฐประหาร พ.ศ. 2549 รวมทั้งหมดตั้งแต่มีการเปลี่ยนแหลงการปกครองมานี้ มีการัฐประหารไปแล้ว 12 ครั้ง

กบฏ (Rebellion) หมายถึงความพยายามยึดอำนาจรัฐ แต่กระทำไม่สำเร็จ ซึ่งเริ่มจาก กบฏ ร.ศ. 130 (พ.ศ. 2455) | และหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองด้วยการปฏิวัติในปี พ.ศ. 2475 แล้วตามด้วย กบฏบวรเดช พ.ศ. 2476 | กบฏนายสิบ พ.ศ. 2478 | กบฏพระยาทรงสุรเดช พ.ศ. 2482 | กบฏเสนาธิการ พ.ศ. 2491 |กบฏวังหลวง พ.ศ. 2492 | กบฏแมนฮัตตัน พ.ศ. 2494 | กบฏ พ.ศ. 2507 | กบฏ พ.ศ. 2520 | กบฏยังเติร์ก พ.ศ. 2524 | และล่าสุด คือ กบฏทหารนอกราชการ พ.ศ. 2528 รวมมีการกบฏไปแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2455 จนถึงปัจจุบัน 11 ครั้ง

การลุกฮือของประชาชน อาจเรียกในภาษาอังกฤษว่า People Uprising อันเกิดความไม่พอใจอันมีฐานมาจากประชาชน ซึ่งเรียงลำดับตามปี พ.ศ. ได้แก่ กบฏสันติภาพ พ.ศ. 2495 เหตุการณ์ครั้งนี้นำมาซึ่งการเข้ายึดครองอำนาจโดยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ และกลุ่มทหารอย่างต่อเนื่องนับ 20 ปี| เหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 ที่เรียกว่า การปฏิวัตินักศึกษาอันเป็นเหตุการณ์ที่ประชาชน โดยมีหัวหอกเป็นนิสิตนักศึกษาได้รวมตัวต่อต้านรัฐบาลทหาร และประสบความสำเร็จ และนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงการปกครอง | เหตุการณ์ 6 ตุลา พ.ศ. 2519 อันเป็นเหตุผลที่ทำให้นักศึกษาที่ถูกกระทำ และท้ายสุด ต้องหลบหนีเข้าป่าไปร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย| และท้ายสุด คือ ในเหตุการณ์ พฤษภาทมิฬ พ.ศ. 2535 ซึ่งประชาชนได้รวมตัวกัน เพื่อต่อต้านรัฐบาลที่มาจากการสนับสนุนของกลุ่มทหาร

สงครามกลางเมือง
Civil War

สงครามกลางเมือง (Civil War) นับเป็นสงครามอ้นเกิดจากการต่อสู้ของคนสองกลุ่ม หรือมากกว่าภายในชาติเดียวกัน ต้องเข้ารบกันเพื่อหวังชนะเด็ดขาด หรือเพื่อให้เป็นอิสระจากอีกฝ่ายหนึ่ง หรือเพื่อให้มีการเปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนนโยบายของรัฐบาล นับเป็นความขัดแย้งรุนแรง มีการนำกำลังอาวุธ (regular armed forces) กำลังคนเข้าปะทะกัน ได้มีการประมาณว่า ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา คือหลังปี ค.ศ. 1945 ได้มีผู้เสียชีวิตจากสงครามกลางเมืองที่เกิดขึ้นในที่ต่างๆในโลกกว่า 25 ล้านคน และทำให้เกิดความล้มเหลวทางด้านเศรษฐกิจ และก่อให้เกิดความทุกข์ยากแก่ประชาชนของประเทศนั้นๆ

ในประเทศสหรัฐอเมริกาเคยเกิดสงครามกลางเมือง ที่เรียกว่า (American Civil War) ระหว่างฝ่ายเหนือกับฝ่ายใต้ ซึ่งนับเป็นสงครามกลางเมืองที่รุนแรงที่สุดของประเทศ

โดยฝ่ายกองกำลังของรัฐบาลอันเป็นฝ่ายเหนือ มี 2,100,000 คน และฝ่ายใต้ มีกองกำลัง 1,064,000 คน สงครามก่อให้เกิดการสูญเสีย (Casualties and losses) โดยฝ่ายเหนือมีผู้เสียชีวิต (killed in action) ในการสู้รบ 110,000 คน เสียชีวิตทั้งหมด (total dead) ซึ่งรวมถึงพลเรียน 360,000 คน บาดเจ็บ (wounded) 275,200 คน

ฝ่ายใต้ เสียชีวิตในการสู้รบ (killed in action) 93,000 คน เสียชีวิตทั้งหมด (total dead) 260,000 คน และบาดเจ็บ (wounded) 137,000+ คน

ในปัจจุบัน ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสงครามกลางเมืองในปัจจุบ้นมีขื้นในหลายแห่งของโลก ซึ่งได้แก่ พม่า (Burma หรือ Myanmar), อูกานดา (Uganda) และ แองโกล่า (Angola) ในประเทศไทยเองมีความไม่สงบเกิดขึ้นในภาคใต้ในปัจจุบัน มีการต่อสู้กันระหว่างผู้ก่อการมุสลิมที่ต้องการแบ่งแยกดินแดง กับฝ่ายรัฐบาลที่ส่งทหารไปปราบปราม แต่ยังไม่ได้เรียกว่าถีงขึ้นสงครามกลางเมือง แต่มีความยืดเยื้อ และก่อให้เกิดผลเสียทางเศรษฐกิจ และชีวิตผู้คนจำนวนไม่น้อย

สงครามกองโจร
Guerrilla warfare

สงครามกองโจร (Guerrilla warfare) เป็นการต่อสู้นอกตำรารบปกติ โดยกองกำลังแบ่งออกเป็นขนาดเล็กมีการเคลื่อนตัวได้เร็ว มีรูปแบบการพลางตัว และมีการเข้าโจมตีกองกำลังหรือกองทัพที่ใหญ่กว่า ในช่วงเวลาและสถานที่ๆไม่สามารถคาดเดาได้ และสามารถเคลื่อนย้ายกำลังได้คล่องตัวกว่ากองทัพหลายเท่า

คำศัพท์มาจากภาษาสเปน แปลว่า สงครามเล็กๆ หรือ "little war" ซึ่งเป็นคำที่ใช้ใน Peninsular War ซึ่งเกิดจากความขัดแย้งของฝ่ายพลเรือนติดอาวุธที่ต้องต่อสู้กับกองทัพของรัฐบาล หรือกองกำลังจากต่างประเทศ

The Peninsular War เป็นการต่อสู้ระหว่างฝ่ายฝรั่งเศสในยุคนโปเลียน กับกองกำลังพันธมิตรอันประกอบด้วยฝ่ายสเปน สหราชอาณาจักร และปอร์ตุเกสในการที่จะเข้ายึดครองแหลมไอบีเรีย (Iberian Peninsula) ในปี ค.ศ. 1807 และในท้ายที่สุดทำให้กองทัพของนโปเลียนต้องพ่ายแพ้ในที่สุดในปี ค.ศ. 1814

กองกำลังของกองทัพประชาชนปลดแอก (People's Liberation Army) ในสงครามกลางเมืองของจีน (Chinese Civil War) ก่อนที่ฝ่ายกองทัพปลดแอกประชาชนจะเป็นฝ่ายมีชัยชนะเด็ดขาดในที่สุด

กองกำลังที่เรียกตัวเองว่า the Irish Republican Army หรือ IRA ในการต่อสู้ในสงครามกลางเมืองยาวนานกับกองทัพของสหราชอาณาจักร (Irish War of Independence), การต่อสู้ของ Fidel Castro และกองกำลังของเขาในการปฏิวัติคิวบา (Cuban Revolution)

การต่อสู้โดยหลายกลุ่มกำลังในสงครามยืดเยื้อในอิรัก (Iraqi Insurgency) กลุ่มกองกำลังที่เรียกว่า Revolutionary Armed Forces of Colombia หรือ FARC ในประเทศโคลอมเบีย ซึ่งเป็นพวกนิยมลัทธิคอมมิวนิสต์ ที่ต่อสู้กับฝ่ายรัฐบาลเป็นเวลายาวนาน

No comments:

Post a Comment