Sunday, April 12, 2009

ใน 4 ทะเล คนเราก็ยังเป็นญาติกัน

ใน 4 ทะเล คนเราก็ยังเป็นญาติกัน

ประกอบ คุปรัตน์Pracob Cooparat
E-mail: pracob.cooparat@gmail.com

Updated: Sunday, April 12, 2009
Keywords: Cw022 สุภาษิตจีน, Chinese proverb, สันติภาพ การอยู่ร่วมกัน, ความเป็นนานาชาติ globalization, internationalization

สุภาษิตจีนหนึ่ง มีความเป็นภาษาอังกฤษว่า “'Within the four seas all man are brethren.” แปลเป็นไทยได้ว่า “ใน 4 ทะเล คนเราก็ยังเป็นญาติกัน” และคำว่า Brethren มีความหมายว่า พี่น้อง ญาติธรรม

สุภาษิตนี้อาจแปลตามวัฒนธรรมได้ว่า คนจีนไม่ว่าเขาจะไปอยู่ในที่ใด เขาก็จะนับญาติ และหาทางช่วยเหลือกัน เช่น ไม่ว่าเขาจะย้ายถิ่นไปยุโรป สหรัฐอเมริกา หรือชาติอื่นๆในเอเชีย คนจีนเวลาเขาไปอยู่ในต่างแดน เขาจะรวมตัวก้นตั้งเป็นชุมชน มีการรักษาขนบธรรมเนียม ภาษา และวิถีชีวิต เวลาจะทำมาค้าขาย หรือเริ่มต้นชีวิต ก็จะมีการส่งเสริมเกื้อหนุนกัน ร้านอาหารจีนก็จะมีคนจีนหรือคนเชื้อสายจีนไปอุดหนุนกันคับคั่ง ซึ่งอาจต่างจากร้านอาหารไทยในต่างแดนที่จะมีแต่คนต่างชาติ เพราะคนไทยมักจะไม่นิยมกินอาหารไทย จะทำกินกันเองที่บ้านมากกว่า

ในอีกด้านหนึ่ง เป็นการตีความอย่างมีมนุษยธรรม “ใน 4 ทะเล คนเราก็ยังเป็นญาติกัน” เป็นคำกล่าวเพื่อให้คนเรารู้จักอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ไม่ว่าจะมาจากชนเผ่าต่างกัน มีสีผิวต่างกัน มีความเชื่อที่ต่างกัน แต่ก็มีความเป็นมนุษย์เหมือนกัน และด้วยความที่ต้องรู้จักอยู่ร่วมกันท่ามกลางความแตกต่างนี้จึงทำให้ชาติจีนแผ่ขยายมีอาณาเขตกว้างขวาง และมีชนกลุ่มน้อยต่างๆ อยู่รวมกันเป็นอันมาก

ประชาชนแม้ในประเทศจีนเอง ก็มีคนอยู่กว่า 1300 ล้านคน หากเขาเป็นคนพวกถือผิวถือเผ่ามากเท่าใด ความขัดแย้งของคนในชาติก็จะยิ่งมีสูงมากเท่านั้น และนั่นหมายความว่า การจะรักษาความเป็นเอกราชของประเทศ หรือจะทำให้สังคมได้อยู่กันอย่างเป็นสุขนั้น คงจะทำได้ยาก

ในประเทศไทยเรา ปัจจุบันมีปัญหาความรุนแรงใน 3-4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหาเหล่านี้ส่วนหนึ่งเกิดจากความเป็นเขาเป็นเรา ทำให้คนบางส่วนเห็นความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรม และศาสนากลายเป็นการแบ่งแยก แทนที่จะมองเห็นความหลากหลาย และความแตกต่างทางวัฒนธรรม และความเชื่อ หากเรียนรู้ที่จะเคารพซึ่งกันและกัน รักความยุติธรรมสำหรับทุกคน โดยไม่จำกัดว่าเขาจะเป็นใคร นับถือศาสนาใด หรือมีสีผิวอย่างไร ดังนี้ คนเราก็จะอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข ยิ่งกว่านี้ การที่คนต่างวัฒนธรรม มาอยู่อาศัยดำเนินชีวิตร่วมกันได้นั้น ย่อมนำความสมบูรณ์และจุดแข็งจากวัฒนธรรมของคนเหล่านั้นมาด้วย

ในประเทศไทยปัจจุบันนี้มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากยิ่งกว่าแต่ก่อน เรามีทั้งคนไทยเชื้อสายจีน เวียดนาม ฝรั่ง หรือแขก ในทางศาสนา เราไม่ได้มีเพียงผู้นับถือศาสนาพุทธ แต่มีทั้งขงจื้อ คริสต์ อิสลาม และอื่นๆ สังคมไทยมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เพราะเป็นสังคมเปิด หากเราเรียนรู้และนำสิ่งดีๆ ในแต่ละชนชาติมาใช้ในสังคมไทย เราคงจะมีความเจริญ พัฒนา และมีสันติสุขมากกว่านี้ เช่น

หากเรานำนิสัยความขยันขันแข็งเหมือนกับคนจีนหรือเวียดนามมาใช้ ก็เป็นสิ่งที่ดี เราจะอยู่ดีกินดี มีใช้มากกว่าที่เป็นอยู่

หากเรานำความคิดก้าวหน้า คิดอย่างเป็นระบบเหมือนพวกฝรั่ง มีการส่งเสริมการศึกษา การวิจัย ค้นคว้าอย่างฝรั่ง ก็จะทำให้ประเทศไทยได้เจริญก้าวหน้า

เรามีอิสลามอยู่ประมาณร้อยละ 5-10 ของประชากร เราน่าจะใช้ประโยชน์จากคนไทยเหล่านี้ในการคบค้าสร้างสัมพันธ์กับชาวอิสลามที่มีอยู่ทั่วโลก

และในขณะเดียวกัน ก็รักษาสิ่งที่ดีๆ แบบไทยๆ ที่มีอยู่เดิม เช่น ความเป็นมิตร สนุกสนาน รักและอยู่กับธรรมชาติ เหล่านี้ ขึ้นอยู่กับว่า เราจะเรียนรู้การอยู่ร่วมกัน และนำสิ่งดีๆ ของวัฒนธรรมต่างๆ มาประสมประสานให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไร

No comments:

Post a Comment