Thursday, April 23, 2009

การศึกษาณ มหาวิทยาลัยซุนเดอร์แลนด์

การศึกษา ณ มหาวิทยาลัยซุนเดอร์แลนด์
Welcome to the University of Sunderland

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat, Ph.D.
มูลนิธิก้าวไกลในเอเซีย (SB4AF)
อาคาร 2, ห้อง 2-106, เลขที่ 2/1 ถ.พญาไท
ทุ่งพญาไท ราชเทวี กรุงเทพฯ
10400 ประเทศไทย

Tel: +66 2 3548254, +66 2 3548255
Fax: +66 2 3548255

Email:pracob@sb4af.org,
Website: www.sb4af.org

Updated: Thursday, April 23, 2009

Keywords: การอุดมศึกษา, การศึกษาต่อต่างประเทศ,ประเทศอังกฤษ, สหราชอาณาจักร

University of Sunderland, UK

มหาวิทยาลัยซุนเดอร์แลนด์จัดเป็นมหาวิทยาลัยยุคใหม่ของอังกฤษที่มีมาตรฐานการเรียนการสอน การวิจัย และการสนับสนุนผู้เรียนที่ดีแห่งหนีงของประเทศอังกฤษ ที่ทำงานร่วมกับบริษัทขั้นนำในโลก

มีวิทยาเขตอยู่ 2 แห่ง แห่งหนึ่งอยู่ในเมือง และอีกแห่งหนึ่งอยู่ติดทะเล มีสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับผู้ต้องการใช้ชีวิตในการศึกษาเล่าเรียน

ในจำนวนนักศึกษา 10,000 คน มีนักศึกษานานาชาติราว 2000 คน จาก 101 ประเทศ ในจำนวนดังกล่าวมีจากประเทศไทยประมาณ 20 คน

สนใจติดต่อได้ที่

South East Asia Regional Office
1st Floor, No 36A, Jalan SS15/
Subjang Jaya,
47500 Selangor
Malaysia
Tel: +603 5635 8002
Fax: +603 5635 7002
malaysia@sunderland.ac.uk

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบ

3 หลักสูตรที่ควรทำความเข้าใจ (Undergraduate Degree, Foundation Degree, และ Higher National Diploma)

สำหรับข้อมูลที่ผมพยายามทำความเข้าใจ ทั้งอ่าน และทั้งสอบถามผู้เกี่ยวข้อง ทำให้เข้าใจระบบการศึกษาของอังกฤษได้มากขึ้น

เมื่อศึกษาระบบการศึกษา เขาเคยมีการจัดระดับคุณภาพการศึกษาของประเทศต่างๆดังนี้

การศึกษาขั้นอนุบาล หรือ Kindergarten เขายกย่องว่าประเทศเยอรมัน และกลุ่มยุโรปตะวันตกว่าจัดการศึกษาในระดับนี้ได้อย่างดี

ถ้าเป็นการศึกษาขั้นประถมศึกษาและมัยยมศึกษา เขายกย่องโรงเรียนเอกชนแบบคัดสรรของอังกฤษที่เรียกว่า Public Schools ซึ่งเป็นโรงเรียนของเอกชน ไม่ใช่โรงเรียนหลวงอย่างที่จะเข้าใจกันในสหรัฐอเมริกา โรงเรียนเหล่านี้เป็นสถานศึกษาที่เตรียมตัวคนเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำที่มีชื่อเสียงของเขา อย่าง Oxford, Cambridge คนที่จบการศึกษาจากสถาบันเหล่านี้คือคนที่จะไปเป็นผู้นำทางการเมือง วิชาการ และธุรกิจต่างๆ

ถ้าเป็นการเรียนทางอาชีวศึกษา ต้องยกให้กับประเทศเยอรมัน ที่เน้นคนได้ฝึกงาน ทำงานควบคู่ไปกับการเรียนในโรงเรียนสายอาชีวะของเขา

ถ้าเป็นระดับปริญญาตรี เขายกย่องระบบการศึกษาของประเทศอังกฤษ ที่มีระบบให้ความสำคัญในการพัฒนาบุคลิกภาพ มีครูและ Tutor ที่จะให้ประสบการณ์การเรียนการสอน การพัฒนาบุคลิกภาพให้กับผู้เรียนจริงจังกว่าในระบบของสหรัฐอเมริกาในมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ ที่ไม่มีเวลา หรือให้ความสำคัญแก่ผู้เรียนได้จริงจังมากนัก

การศึกษาในระดับปริญญาตรีของอังกฤษ น่าสนใจด้วยเหตุที่อยู่ในจุดของการเชื่อมโยงกับประเทศในทวีปยุโรปนานาประเทศ

ส่วนระบบการศึกษาของประเทศอังกฤษ ผมเคยรับเขียนงานศึกษาให้สำนักงานคณะเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ (สกศ.) ช่วงนี้ได้เลยกลับมาเป็นนักเรียน ลองศึกษา แล้วเขียนงานออกมาแลกเปลี่ยนกับผู้รู้ทั้งหลาย หากมีอะไรที่จะเพิ่มเติม ก็เขิญได้เลยครับ เปิดรับฟังและแลกเปลี่ยนอยู่แล้ว

ก่อนอื่น ให้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำศัพท์เกี่ยวกับการศึกษา และระบบการศึกษาของประเทศอังกฤษต่อไปนี้

การศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา
(Postgraduate Programmes)

การเรียนในระดับ Postgraduate Programmes นั้นให้เข้าใจว่าใกล้เคียงกับ Graduate Education หรือบัณฑิตศึกษา หรือการศึกษาหลังปริญญาตรีนั้นเอง ซึ่งหมายถึงการเรียนในระดับปริญญาโทและเอก และอื่นๆ

การศึกษาระดับปริญญาตรี
(Undergraduate Degrees )

ก่อนอี่นสำหรับผู้เรียนที่มาจากประเทศไทย และสนใจศึกษาต่อในประเทศกลุ่มสหราชอาณาจักรและยุโรปอื่นๆ ต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการศึกษา และระบบอุดมศึกษาของเขา โปรแกรมการเรียนปริญญาตรีของเขาใช้เวลาเรียน 3 ปี แต่การเรียนในระดับการศึกษาพื้นฐาน เขาเรียน 13 ปี ในขณะที่ในประเทศไทยใช้ระบบของอเมริกัน เรียน 12 ปี

หากเป็นการเรียน 4 ปีในประเทศอังกฤษ หมายถึงเขามีการเรียนในแบบประสม เรียกว่า Sandwich คือมีการเรียนควบคู่กับการฝึกงานในระบบองค์กรการค้าหรืออุตสาหกรรม การฝึกงานนี้อาจได้รับ หรือไม่ได้รับค่าตอบแทน

การศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา
(Postgraduate Degrees )

การเรียนในระดับหลังปริญญาตรี เขาเรียกว่า Postgraduate Degrees ซึ่งหมายความใกล้เคียงกับคำว่า Graduate Education หรือในภาษาไทยเรียกว่า “บัณฑิตศึกษา” การศึกษาในระดับนี้ได้แก่ ปริญญาโท (Masters, postgraduate degree, postgraduate diploma or postgraduate certificate) ซึ่งภาคการศึกษาจะเริ่มต้นในราวเดือนกันยายน/ตุลาคม มีบางแห่งที่เริ่มในช่วงต้นปี คือ มกราคม/กุมภาพันธ์

โปรแกรมการศึกษาส่วนใหญ่ใช้เวลาประมาณ 50 สัปดาห์ที่จะสำเร็จการศึกษา ซึ่งเทียบกับในประเทศไทย จะใช้เวลาเรียนประมาณ 2 ปี หรือ 24 เดือน

การเรียนในบางโปรแกรม เช่นคอมพิวเตอร์และวิศวกรรมศาสตร์ ใช้เวลา 60 สัปดาห์ รวมถึงใช้เวลา 8 สัปดาห์ในช่วงฤดูร้อน

โปรแกรมสำหรับนักศึกษานานาชาติ
(International Foundation Programme )

สำหรับนักศึกษานานาชาติที่อาจมีระบบการศึกษาต่างกัน โดยเฉพาะจากประเทศไทยที่มีการเรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน คือประถมศึกษาและมัธยมศึกษารวมกันน้อยปีกว่าของเขา 1 ปี เขาจึงมีการจัดโปรแกรมสำหรับนักศึกษานานาชาติ (International Foundation Programme) เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมเพิ่มขึ้น บางโปรแกรมเรียกว่า Foundation Programme หรือ Pre-degree programme

โปรแกรมที่เรียกว่า International Foundation Programme เป็นโปรแกรมที่เตรียมตัวเพื่อจะศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี (Undergraduate degree) ในสายธูรกิจ หรือคอมพิวเตอร์ โปรแกรมนี้ต้องศึกษาภาษาอังกฤษ (English Language), ทักษะการเรียน (study skills) และหน่วยการเรียนในสายวิชาเฉพาะ (specialist modules) เพิ่มเติม

โปรแกรมก่อนเรียนปริญญา
(Pre-Degree Programme )

หากท่านไม่มีทักษะหรือความรู้ที่จำเป็นที่จะเริ่มในโปรแกรมระดับมหาวิทยาลัย ในเมือง Sunderland มีวิทยาลัย ชื่อ City of Sunderland College ที่ว่าไปแล้วคล้ายวิทยาลัยชุมชน (Community Colleges) ของสหรัฐอเมริกา ท่านก็สามารถไปลงทะเบียนเรียนเพื่อเติมเต็ม วิชาเหล่านี้จะช่วยทำให้ท่านพร้อมที่จะเรียนในมหาวิทยาลัยที่ท่านจะเลือกเรียนในระดับปริญญาตรีตามที่ต้องการได้ต่อไป

ปริญญาพื้นฐาน
(Foundation Degrees )

Foundation Degrees เป็นระดับการศึกษาที่จะได้ FdA หรือ FdSc หากเทียบกับในประเทศไทยคงใกล้เคียงกับ อนุปริญญา หรือ Associate Degree ในสหรัฐอเมริกา เป็นการเรียนในระดับ 2 ปี เรียนวิชาที่ส่วนใหญ่เป็นวิชาอาชีวศึกษา เพื่อการทำงานในอุตสาหกรรม ในวงการค้า หรือในระบบราชการ เตรียมผู้เรียนให้มีความพร้อมในการทำงานที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้จ้างงาน (Employers)

เมื่อจบการศึกษาระดับนี้แล้ว จะออกไปทำงาน หรือจะไปเรียนต่อในระดับปริญญาตรีก็ได้

โปรแกรมการศึกษาแลกเปลี่ยนต่างประเทศ
(Study Abroad and Exchange Programmes)

ในโลกที่ต้องมีขีดความสามารถในการทำงานในโลกที่มีความเป็นนานาชาติมากขึ้น เขาจะมีโปรแกรมที่ไปเรียน หรือไปทำงานในต่างประเทศ ซึ่งโปรแกรมอาจยืดหยุ่นระหว่าง 1 ภาคการศึกษา จนไปถึง 1 ปี เป็นการเรียนที่อาจไม่แสวงปริญญา แต่อาจมีการนับหน่วยกิตที่จะได้นำไปสู่การเรียนในระดับปริญญาต่อไป

ในอีกด้านหนึ่ง หากเราเป็นนักศึกาจากต่างประเทศ ไม่ใช่ชาวอังกฤษ อยู่นอกสหราชอาณาจักร เรียนอาจเลือกที่จะไปเรียนที่มหาวิทยาลัยซุนเดอร์แลนด์ แล้วเรียนสัก 1 หรือ 2 ภาคการศึกษา แล้วกลับไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัยในประเทศของตน แต่โปรแกรมเหล่านี้ต้องมีการปรึกษากับฝ่ายวิชาการของมหาวิทยาลัยในประเทศของตน อาจเป็นโครงการที่มีการแลกเปลี่ยนนักศึกษากันอยู่แล้ว

การเรียนระดับบัณฑิตศึกษาด้วยการวิจัยและการเรียนทางไกล (Postgraduate Research and Distance Delivery Research Programmes )

U of Sunderland เป็นผู้นำทางด้านการศึกษาระดับสูง ที่มีการวิจัยที่เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจ มีการสอนในระดับปริญญาวิจัย นำไปสู่ปริญญาโท ที่เขาเรียกว่า Master of Philosophy (MPhil) หรือปริญญาเอกที่ในอังกฤษเขาเรียกว่า Doctor of Philosophy (PhD) การเรียนในแบบปริญญาโทและเอกของเขานั้น สามารถเรียนได้ในแบบวิจัย และเรียนแบบทางไกล หากบุคคลนั้นๆ ได้พิสูจน์ให้เขาเห็นว่ามีขีดความสามารถในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเองที่ดี มีทักษะการสื่อสารและทำงานในระบบทางไกลที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตช่วยได้ดี

ในปัจจุบัน เขากำลังพัฒนาการทำวิจัยในยุโรป ตะวันออกไกล ตะวันออกกลาง และในอเมริกาใต้ นักศึกษาสามารถเข้าไปทำวิจัยในประเทศจีน กรีก คูเวต ซาอุดิอาราเบีย และในสหรัฐอเมริกา

การศึกษาในประเทศของตน
(Study in Your Own Country )

เขามีโปรแกรมที่เปิดสอนทั่วโลก ส่วนหนึ่งเพื่อดึงดูดคนมาศึกษาต่อในประเทศอังกฤษ และอีกส่วนหนึ่งคือ นำการศึกษาไปสู่ผู้เรียนในประเทศต่างๆ ทั้งนี้โดยผู้เรียนต้องเรียนในศูนย์ (Centres) หรือศึกษาด้วยตนเองอิสระ โดยใช้ระบบเครือข่ายสนับสนุน

ในกรณีนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจว่า เขาใช้วิธีการจัดการเรียนการสอนกันอย่างไร บริหารและควบคุมคุณภาพการศึกษากันอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักศึกษาไทย ที่อาจยังไม่มีทักษะในการเรียนแบบที่ต้องพึ่งตนเองได้เหมือนในแบบของเขา

ข้อกำหนดในการเรียนภาษาอังกฤษ
(English Language Requirements )

ผู้ที่จะศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยอย่าง U of Sunderland จะต้องมีพื้นฐานภาษาอังกฤษที่ TOEFL 550 หรือหากเป็นระบบทดสอบด้วยใช้ TOEFL IBT ที่ 79/80 หรือระดับ 6.0 ของ IELTS ซึ่งนับว่าค่อนข้างสูงทีเดียว และทำให้ผู้เรียนส่วนหนึ่งเลือกที่จะต้องไปศึกษาในหลักสูตรเตรียมความพร้อม ที่จะต้องเรียนภาษาอังกฤษ ควบคู่ไปกับการเรียนวิชาการไปในระยะแรก

ค่าเล่าเรียนและการได้ทุนการศึกษา
(Tuition Fees and Scholarships)

ค่าใช้จ่ายในการเรียนที่สำคัญประการหนึ่งคือค่าเล่าเรียน (Tuition fees) ซึ่งนับเป็นประมาณร้อยละ 50-55 ของค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อต่างประเทศ

สำหรับนักศึกษาต่างชาติที่ไม่ใช่จากประเทศกลุ่ม European Union ซึ่งหมายถึงนักศึกษาส่วนใหญ่จากประเทศอย่างประเทศไทยจะมีค่าเล่าเรียนคิดเป็นปีการศึกษา ดังต่อไปนี้

1. International Foundation Programme and Level 0 Foundation Programmes ค่าเล่าเรียน GBP6,950.00 เป็นเงินไทย 347,500.00 บาท
2. Undergraduate ค่าเล่าเรียน GBP8,300.00 เป็นเงินไทย 415,000.00 บาท
3. Postgraduate Taught (except MBA) ค่าเล่าเรียน GBP8,750.00 เป็นเงินไทย 437,500.00 บาท
4. MBA ค่าเล่าเรียน GBP10,750.00 เป็นเงินไทย 537,500.00 บาท

นักศึกษาที่จ่ายค่าใช้จ่ายตามที่ระบุข้างบน จะได้รับทุนการศึกษา อันเป็นส่วนลดที่ประกันให้ที่ GBP1,500 หรือประมาณ 75,000 บาท

สำหรับนักศึกษากลุ่มประเทศสมาชิก European Union เขาจะมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า เพราะมีระบบการสนับสนุนการศึกษาแบบร่วมกัน เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนนักศึกษาในโครงการต่อกัน

ค่าเล่าเรียนสำหรับนักศึกษากลุ่มประเทศสหภาพยุโรป European Union คิดเป็นปีการศึกษาละ มีดังนี้

1. International Foundation Programme and Level 0 Foundation Programmes ค่าเล่าเรียน GBP 3,225.00 เป็นเงินไทย 161,250.00 บาท
2. Undergraduate ค่าเล่าเรียน GBP3,225.00 เป็นเงินไทย 161,250.00 บาท
3. Postgraduate Taught ค่าเล่าเรียน GBP3,995.00 เป็นเงินไทย 199,750.00 บาท
4. MBA ค่าเล่าเรียน GBP8,900.00 เป็นเงินไทย 445,000.00 บาท
5. MA Marketing ค่าเล่าเรียน GBP5,500.00 เป็นเงินไทย 275,000.00 บาท
6. MA International Management ค่าเล่าเรียน GBP5,500.00 เป็นเงินไทย 275,000.00 บาท
7. MSc Human Resource Management ค่าเล่าเรียน GBP5,500.00 เป็นเงินไทย 275,000.00 บาท

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ
(Approximate expenditure)

ค่าใข้จ่ายต่อเดือน
(Estimated cost per month)

นอกจากค่าเล่าเรียนที่คิดเป็นประมาณร้อยละ 50-55 ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วค่าใช้จ่ายอื่นๆที่มีการรวบรวมไว้มีดังต่อไปนี้

1. ที่พัก (Accommodation) GBP265.00 หรือ 13,250.00 บาท
2. อาหาร (Food) GBP140.00 หรือ 7,000.00 บาท
3. หนังสือและอุปกรณ์การเรียน (Books and Course equipment) GBP32.00 หรือ 1,600.00 บาท
4. ค่าใช้จ่ายส่วนตัวและอื่นๆ (Personal and Miscellaneous) GBP75.00 หรือ 3,750.00 บาท
รวมค่าใช้จ่าย 25,600.00 บาทต่อเดือน

ค่าใช้จ่ายส่วนตัวและอื่นๆ อาจหมายถึง เสื้อผ้า และของใช้อื่นๆ รวมถึงงานอดิเรก
GBP 1 = 50 bahts

ค่าที่พักที่เมือง Sunderland อ้นเป็นเมืองขนาดประชากร 100,000-150,000 คน นับว่าไม่ใหญ่ ค่าใช้จ่ายด้านที่พักจะไม่สูงเหมือนเรียนในกรุงลอนดอน ที่จะต้องมีค่าที่พักและค่าเดินทางที่สูงขึ้นไปอีก

หากเป็นการเรียนที่ 10 เดือนต่อปี จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 256,000 บาท หากต้องเรียนเต็ม 12 เดือน จะประมาณ 300,000-320,000 บาท

ค่าเดินทางโดยเครื่องบินไปกลับระหว่างกรุงเทพฯ กับ ลอนดอน ประมาณ 40000 บาท ซึ่งอาจมีราคาขึ้นลงตามราคาน้ำมันและอื่นๆ

สำหรับบางคนที่เมื่อมีทางเลือก จะเลือกทำงาน ฝึกงานแบบมีค่าตอบแทน จะได้มีค่ากินอยู่ใช้จ่ายเพิ่มขึ้น หรือมีเงิน Pocket Money ที่จะจับจ่าย หรือท่องเที่ยวเป็นรางวัลสำหรับผู้เรียนบางคน ซึ่งแตกต่างกันออกไป

No comments:

Post a Comment