Sunday, April 5, 2009

บทที่ 5 สหรัฐอเมริกา ยุคแจคสันถึงสงครามเม๊กซิโก

ประกอบ คุปรัตน์
Pracob Cooparat
มูลนิธิก้าวไกลในเอเซีย
SpringBoard For Asia Foundation (SB4AF)
ห้อง 2 -106 (อาคาร 2 ชั้น 1) เลขที่ 2/1
ถ.พญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทรศัพท์. 0-2354-8254-5
โทรสาร 0-2354-8316
Website: www.sb4af.org
E-mail: pracob@sb4af.org

Keywords: ประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา

ยุคแจคสันถึงสงครามเม๊กซิโก
(Jackson to the Mexican War)


แนวคิดประชานิยม

ในยุคที่การเมืองเริ่มเข้มแข็งขึ้นด้วยการมีระบบเลือกตั้งในปี ค.ศ. 1828 โดยมีประธานาธิบดี Andrew Jackson เป็นประธานาธิบดี เขาเป็นคนนำเสนอแนวคิดของการทำให้การเมืองตอบสนองต่อคนทั่วไป ไม่ใช่คนร่ำรวยหรือคนกลุ่มผลประโยชน์ เขาปรับระบบการเมืองภายใต้การนำของเขาให้ตอบสนองต่อประชาชน โดยตัวเขาเองแล้ว เขาสนับสนุนนโยบายการต่างประเทศที่เข้มแข็ง การขยายประเทศไปในทิศตะวันตก ในทางเศรษฐกิจ เขายืนหยัดในวิถีชีวิตแบบเอกตบุคคล เขาโจมตีพวกใช้เงินและผลประโยชน์ที่เข้าไปเกาะกุมธนาคารกลางของประเทศ แต่เขาก็สนับสนุนการรวมกันเป็นสหรัฐ แต่กระนั้นฝ่ายใต้ก็เริ่มขัดเคืองมากขึ้นเรื่อยๆ และในระยะนั้น John C Calhoun ได้กลายเป็นกระบอกเสียงให้กับฝ่ายใต้โดยแนวคิด “การยึดถือสิทธิของรัฐ” (States’ Rights Doctrine)

ฝ่ายปฏิปักษ์นโยบายของ Jacskson รวมทั้งพวกอนุรักษ์ทั้งทางเหนือและใต้ กลุ่มเจ้าของที่ดิน ได้รวมตัวกันตั้งพรรคที่เรียกว่า Whiq Party ซึ่ง Henry Clay และ Daniel Webster ได้เป็นบุคคลสำคัญ ส่วนประธานาธิบดีคนต่อไป คือ Martin Van Buren ได้ใช้นโยบายเดินตาม Jackson แต่ความนิยมของ Buren ได้ตกลงอย่างมากในช่วงความตื่นตระหนกในปี ค.ศ. 1837 ฝ่ายพรรค Whiq ได้ใช้นโยบายยึดแนวทางของพรรค Democratic Party ด้วยการรณรงค์หาเสียงแล้วเลือก William Henry Harrison เป็นประธานาธิบดีคนต่อไป ในช่วงนั้น การเคลื่อนไปสู่ตะวันตกได้รับความสนใจอย่างมาก ในปีทศวรรษ 1840 การขยายตัวไปจรดชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก และนั้นกลายเป็นจุดหมายปลายทางของประเทศสหรัฐอเมริกา

การเกิดรัฐเทกซัส

ในขณะนั้นสาธารณรัฐเทกซัส (The Republic of Texas) ได้ชนะและเป็นอิสระจากประเทศเมกซิโก แต่การรับรัฐนี้เข้าร่วมก็ชะลอด้วยความขัดแย้งเรื่องสถานะของทาส การเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐมาสำเร็จในสมัย John Tyler เป็นประธานาธิบดี และสนธิสัญญาสำเร็จเพียง 3 วันก่อนเขาหมดวาระในตำแหน่ง และเพราะการกระทำของเขาทำให้ James K Polk แห่งพรรค Democrat ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป ที่ใช้นโยบายเข้ายึดครอง Oregon และการผนวกรัฐเทกซัสเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐ

การผนวกรัฐเทกซัสได้ก่อให้เกิดสงครามเมกซิโก (Mexican War) และผลจากสงครามทำให้เกิดสนธิสัญญา ชื่อ Treaty of Guadalupe Hidalgo ทำให้พื้นที่ 2 ใน 5 ของเมกซิโก และรวมถึง California และเขตตะวันตกเฉียงใต้เป็นอาณาเขตของสหรัฐอเมริกา ในการเข้ายึดครอง Oregon และขัดแย้งกับประเทศอังกฤษในการเข้าถือครองเขตลุ่มแม่น้ำ Columbia สหรัฐใช้นโยบายแข็งกร้าว ภายใต้ประธานาธิบดี Polk ได้มีการตกลงยุติความขัดแย้ง และสหรัฐได้เข้าถือครองดินแดนตะวันตกเฉียงเหนือ ถือว่านโยบายขยายประเทศได้บรรลุแล้ว

ในช่วงปี ค.ศ. 1848 ได้มีการค้นพบทองในรัฐ California ซึ่งเป็นตะวันตกสุด ได้ทำให้มีการยึดครองและมี California เป็นรัฐที่ 49 เพราะได้มีคนอพยพไปอยู่ในดินแดนใหม่นี้มากขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้คือการปศุสัตว์แบบเปิดได้ทำให้เกิดพวกเลี้ยงสัตว์เข้าไปทำกิจกรรมกันมากขึ้นและจนจวบกับการเกิดสงครามกลางเมือง พวกเลี้ยงสัตว์แบบเปิดนี้มีลักษณะใช้ที่ดินในการเลี้ยงสัตว์ แต่เมื่อที่ดินเสื่อมสภาพก็จะย้ายไปทางตะวันตกยิ่งขึ้นไป ปัญหาที่ดินเสื่อมสภาพรุนแรงทางด้านใต้ ที่การปลูกพืชแบบเดี่ยวเช่นฝ้ายในการทำไร่ขนาดใหญ่ ได้ขยายไปยังเขตเทกซัส การเข้ายึดครองตะวันตก ทำให้ผู้อพยพใหม่จากยุโรปได้หลั่งไหลมาสู่ทวีปใหม่นี้

No comments:

Post a Comment