Sunday, April 12, 2009

ผู้นำต้องคำนึงถึงปากท้องของประชาชน

ผู้นำต้องคำนึงถึงปากท้องของประชาชน

ประกอบ คุปรัตน์Pracob Cooparat
E-mail: pracob.cooparat@gmail.com

Updated: Sunday, April 12, 2009
Keywords: Cw022 สุภาษิต English proverb, เศรษฐกิจ การเมือง, ความหิว, hunger, hungry, ความโกรธ, anger, angry

มนุษยสัมพันธ์มีสุภาษิตของชาวอังกฤษหนึ่งกล่าวว่า “A hungry man is an angry man.” แปลเป็นไทยได้ว่า “คนหิวคือคนโกรธ”

คนเรานั้นความสำคัญขั้นแรกของชีวิต คือการให้มีกินได้อิ่ม ก่อนที่เขาจะไปคำนึงถึงบ้านเรือน ที่อยู่อาศัย การเที่ยวเตร่ หรืออื่นๆ

จะสังเกตได้ว่า ในสมัยก่อน กษัตริย์จะต้องคำนึงถึงการเกษตร การมีน้ำที่อุดมสมบูรณ์ ฝนตกต้องตามฤดูกาล ยามใดฝนแล้ง บ้านเมืองก็อาจเกิดกลียุคได้ ดังนั้นพระองค์จึงต้องคำนึงถึงวิธีการทำให้การเกษตรสำหรับชาวบ้านที่ทำให้มีน้ำท่าอุดมสมบูรณ์ตลอดเวลา จึงต้องมีการคิดขุดคลองส่งน้ำ หรือที่เรียกว่าคลองชลประทาน การตั้งบ้านสร้างเมือง ก็ต้องสร้างริมแม่น้ำ หากสายน้ำเปลี่ยนทิศทาง บริเวณนั้นแห้งแล้ง เมืองทั้งเมืองก็กลายเป็นเมืองร้างได้

ในปัจจุบัน ยามใดที่เศรษฐกิจไม่ดี อาหารการกินมีราคาแพง คนตกงานมาก และการค้าขายฝืดเคือง จะมีอัตราอาชญากรรมสูง มีอัตราการลักเล็กขโมยน้อยปรากฏให้เห็นมากขึ้น ไล่ไปจนถึงการปล้นสะดมอุกอาจ เช่นปล้นร้านทอง ขโมยตู้เอทีเอ็ม หรือแม้การปล้นธนาคาร และรถขนเงิน เป็นต้น ในทางการเมือง ผู้บริหารประเทศจะต้องคำนึงถึงก่อนสิ่งอื่นใด คือการทำให้ประชาชนมีอาหารการกินที่สมบูรณ์ และจะให้ดีก็ต้องมีอย่างอุดมสมบูรณ์และอย่างยั่งยืน

ในประเทศจีนยุคปัจจุบัน แม้ยังเป็นสังคมคอมมิวนิสต์ การเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างรวดเร็ว แม้มีความแตกต่างระหว่างคนมีกับคนจนมากขึ้นอย่างมาก แต่ประชาชนทั่วไปก็ยังไม่ได้คำนึงถึงเสรีภาพทางการเมืองมากนัก หรือมีการเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างที่เรากำลังเรียกร้องในประเทศไทย เพราะรัฐบาลของเขาตระหนักดีว่า สิ่งที่จะทำให้สังคมเขาไม่ขัดแย้งรุนแรง ประการหนึ่งคือทำให้ประชาชนมีปัจจัย 4 ที่จำเป็นต่อชีวิต สิ่งเหล่านั้นก็คือ (1) การมีอาหารการกินที่มีราคาไม่แพง (2) การมียารักษาโรคและระบบการรักษาพยาบาลที่จำเป็นให้กับประชาชน (3) การมีเสื้อผ้าให้ความอบอุ่น และ (4) การมีบ้านพักที่พักสำหรับทุกคน สิ่งเหล่านี้คือความสำคัญที่รัฐบาลไม่ว่าจะเป็นระดับประเทศหรือท้องถิ่นพึงคิดถึง และจัดทำให้นโยบายของประเทศตอบสนองต่อสิ่งดังกล่าว

นโยบายสมานฉันท์ที่เราพึงมุ่งเน้น ไม่ใช่นโยบายกวาดล้างฝ่ายตรงกันข้าม การต่อสู้แบบเอาแพ้เอาชนะกัน แต่การต้องหาทางประนีประนอมกัน โดยมุ่งหวังให้คนส่วนใหญ่ของประเทศได้มีโอกาสลืมตาอ้าปาก ได้มีกินมีอยู่เสียก่อน การพยายามกวาดบ้านให้สะอาด คือปราบปรามคอรัปชั่น แต่กลับทำให้ท้องคนว่าง ความหิว ความอึดอัดจะนำไปสู่ความไม่พอใจ คนจะเดินขบวนต่อต้านอะไร ก็ให้เขากระทำไป ได้มีทางระบายออก เพราะมันเป็นเสรีภาพของเขา แต่ถ้าเมื่อใดที่คนหิว คนก็จะโกรธ และเมื่อเขาโกรธ ความรุนแรงต่างๆ ก็จะตามมา

คนที่จะเป็นผู้นำในยุคต้องพึงระลึกเสมอว่า “คนหิว คือคนโกรธ”

No comments:

Post a Comment